ชาวสวนปาล์ม ตั้งโต๊ะ แถลง “ วิพากษ์ กนป.” วันพรุ่งนี้ (มีคลิป)

นายพันธ์ศักดิ์ จิตรรัตน์  ประธานคณะกรรมการด้านปาล์มน้ำมันและพืชพลังงาน สภาเกษตรกรแห่งชาติและกรรมการใน กนป. เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า  วันนี้เราชาวสวนปาล์มน้ำมัน 26 จังหวัด ได้มีการหารือกันแล้วว่า ส่วนหนึ่งที่มีปัญหาก็คือการทำงานของ กนป. ไม่ได้รับฟังตัวแทนเกษตรกรเลย การสร้างปัญหา การผ่านแดน โครงสร้างราคา รวมถึงสต๊อกน้ำมันที่ยังไม่ชัดเจน บวกกับการสนับสนุนการส่งออกที่ไม่เป็นธรรม มีการพิจารณาที่ไม่อนุมัติตามที่ กนป.อนุมัติ อาทิ การส่งออกน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม ทั้งที่ไม่มีมติที่ประชุม เป็นต้น

ดังนั้นในฐานะที่ผมเป็นตัวแทน สรุปว่าจะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ที่โรงแรมสยามธานี ในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะมีรายละเอียด ให้รับทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลามีอะไรบ้างที่แอบแฝงอยู่ เราทำเพื่อสังคม เราทำเพื่อความเป็นธรรมของชาวสวนปาล์มเพื่อให้ได้มีความถูกต้องและยุติธรรม รัฐก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนำเงินมาชดเชยประกันรายได้ เพื่อมาแทรกแซง ดังนั้นวันพรุ่งนี้ขอเชิญชวนชาวสวนปาล์มทั้งประเทศให้มารับชมและติดตาม โดยเรามีเครือข่าย 26 จังหวัด ผมไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ เพราะฉะนั้นในวันพรุ่งนี้พบกัน

เช่นเดียวกัน นายสิทธิพร  จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ คนที่ 2 กล่าวว่า เราไม่ได้กังวลเรื่องน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 5,000 ตัน เรากังวลว่าระบบของประเทศไทย จะทำให้สินค้าตกหล่นในประเทศ นี่เป็นข้อกังวลของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์ม แต่ถ้าทำตรงไปตรงมา ไม่มีผลประโยชน์มาแอบแฝง ขนถ่ายไปจากด่านสะเดาไปหนองคาย ให้เริ่มนับ แล้วถ้าครบก็ปิดด่านทันที

ในวันนั้นท่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธาน กนป. รับปากว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ซึ่งมีทหาร ตำรวจ กรมการค้าภายใน กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และตัวแทนเกษตรกร การขนย้ายจะมีสติ๊กเกอร์แปะติด ว่าเป็นของ สปป.ลาว ที่ซื้อน้ำมันปาล์มจากประเทศมาเลเซีย  หากยังไม่ครบ แต่เกิดปัญหามีการตกหล่น มีหลักฐาน จะหยุดทันที เพราะฉะนั้นหากเกษตรกรคนไหน เห็นว่ามีความผิดปกติ และช่วยเป็นหูเป็นตา สามารถแจ้งได้เลยที่สภาเกษตรกรแห่งชาติ 3 จังหวัด “สุราษฎร์ธานี กระบี่ หรือ ชุมพร”

ด้านนายโสฬส เดชมณี กรรมการใน กนป. กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ไม่ได้เข้าร่วมโต๊ะแถลงข่าว เนื่องจากมีนัดที่อื่นไว้ก่อนแล้ว เป็นไปทางทิศทางเดียวกับที่จะแถลงในวันพรุ่งนี้ เพราะทุกคนก็ไม่เห็นด้วยในการผ่านน้ำมันปาล์มดิบจากมาเลเซียผ่านไทยไป สปป.ลาวทางบกผ่านทางด่านสะเดา จ.สงขลาไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 (หนองคาย)ระยะทาง 1,612 กิโลเมตร

เช่นเดียวกัน นายมนัส พุทธรัตน์ กรรมการ กนป. กล่าวว่า  การประชุมจบไปเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องสำคัญๆที่มีผลกระทบต่อเกษตรกร เราซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติได้พยายามต่อสู้แทนพี่น้องเกษตรกรเต็มที่แล้วแต่ทางภาครัฐมีความตั้งใจและปักธงใว้แล้วไม่ว่าเรื่องการยกเลิกB10ออกจากสาระบบน้ำมันไบโอดีเซลภายในปี67

ต้องตามไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานว่าทำไปเพื่ออะไรทำเพื่อใคร เอาเกษตรกรไปไว้ที่ไหนถีบลงเหวหรือ และอีกเรื่องเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กันการเปิดด่านสะเดา ด่านทางบก ซึ่งเป็นด่านที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้คัดค้านต่อสู้ทั้งก่อนประชุมและในที่ประชุมแต่ก็แค่เป็นการต่อสู้ เราไม่สามารถให้รัฐบาลยกเลิกหรือกลับไปทบทวนได้ เพราะรัฐได้ตัดสินใจไว้แล้ว ก็ต้องดูว่าเราเกษตรกรชาวสวนปาล์มจะหาแนวทางต่อสู้เพื่อปกป้องอาชีพของเราต่อไปอย่างไร

ปิดท้าย นายอธิราษฎร์ ดำดี คณะทำงานด้านปาล์มน้ำมัน สภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่​ และอดีต กรรมการ กนป. กล่าวว่า  วันพรุ่งนี้ ไม่พอใจมติ กนป. จะเป็นการแถลงข่าวของสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันหลายจังหวัด โดยใช้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เวลา 10.00-12.00 น. ที่โรงแรมสยามธานี เป็นรายการวิพากษ์ นโยบาย กนป.  ซึ่งจะเป็นงานที่รวบรวมชาวสวนปาล์มมาฟังเสียงสะท้อนและวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของ กนป.

"จากกรรมการ กนป.ที่อยู่ในที่ประชุม มีความคิดเห็นร่วมกันว่า กนป.ไม่ฟังเสียง และไม่ฟังความคิดเห็นของตัวแทนเกษตรกรเลย มาเพียงแค่ขอมติเท่านั้น  ซึ่งการกระทำแบบนี้ เหมือนตัวแทนเกษตรกรถูกข่มขืนในห้องประชุม แล้วที่สำคัญข่าวรัฐบาลที่ออกมาไม่มีเรื่องการเปิดด่านสะเดาเลย ชาวสวนอาจจะไม่ทราบว่ามีมติให้เปิดด่านแล้ว รวมทั้งเรื่อง บี5 และ บี7 ก็มีเสียงคัดค้าน"

รวมทั้งราคาประกันรายได้ที่ให้เพียงแค่ 4 บาท/กก. ก็ไม่ยอมพิจารณา ไม่ยอมฟัง แล้ววันนี้ต้นทุนเกษตรกรไม่ใช่แค่ 4 บาท/กก.แล้ว จะมาให้แค่ 4 บาท/กก.ไม่ได้ ทุกอย่างทุกเรื่องมาหักด้ามพร้าด้วยเข่าทั้งหมดเลย สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะต้องแจ้งให้เกษตรกรทั้งประเทศทราบกันในวันพรุ่งนี้ ขอให้ติดตามชม