รายงานข่าว (10 ก.พ. 2565) เผยว่า นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย พร้อมด้วยผู้แทนอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องตลอดสายห่วงโซ่การผลิต ได้เข้าพบ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อร่วมหารือแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อความยั่งยืนของประเทศ โดยมีนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ , นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รักษาราชการอธิบดีกรมประมง และ นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรฯ
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ เผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งของอุตสาหกรรมกุ้งไทย ที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของสินค้ากุ้ง พร้อมรับปากและยืนยันจะช่วยผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตกุ้งให้ได้ปีละ 4 แสนตัน ภายใน 2 ปี ทั้งนี้เพื่อทวงคืนโอกาสที่เกิดจากความเสียหายของอุตสาหกรรมกุ้งไทยอันเนื่องจากการระบาดของโรคกุ้งคิดเป็ฯมูลค่ามากกว่า 5 แสนล้านบาทในช่วงก่อนหน้านี้ให้กลับคืนมา และผลักดันสินค้ากุ้งให้กลับมาเป็นสินค้าสำคัญของประเทศ โดยถือเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
“ ปี 2553 ไทยเคยผลิตได้สูงสุดถึง 6.4 แสนตัน เป็นผู้นำการผลิตและส่งออกกุ้งของโลก ทำรายได้เข้าประเทศจากส่งออกเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบันผลิตได้เพียง 2.8 แสนตัน มูลค่าส่งออก 4.3 หมื่นล้านบาท(ม.ค.-พ.ย. 2564)”
ด้าน ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า โรงงานแปรรูปกุ้ง(ห้องเย็น) ปัจจุบันเหลือดำเนินการอยู่ประมาณ 20 แห่ง รวมกับโรงงานฯ ที่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะผลิตกุ้งได้อีก 15-30 แห่ง (ที่ตอนนี้หยุดไป) พร้อมรับกุ้งเพื่อแปรรูปส่งออกได้ถึง 4 แสนตัน โดยคุณภาพกุ้งไทยยังคงเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ผู้แปรรูปส่งออกไม่สามารถรับคำสั่งซื้อได้ เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีกุ้งเพียงพอ ทำให้เสียโอกาสไปดังนั้นจึงควรเร่งผลักดันให้กลับมาผลิตให้ได้
นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวอีกว่า การเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้องของตัวแทนห่วงโซ่อุปทาน ตลอดสายการผลิตสัตว์น้ำอย่างพร้อมเพรียงในครั้งนี้ เป็นนิมิตหมายที่ดีของอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้เปิดโอกาสรับฟังข้อเสนอต่าง ๆ จากตัวแทนทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามข้อเสนอ และมอบหมายให้กรมประมงเร่งดำเนินการ รวมถึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปฏิบัติกาในเชิงรุก ให้ไทยกลับมาเป็นผู้นำการผลิตและส่งออกกุ้งของโลกอีกครั้ง