ชี้ช่องรวยให้เกษตรกรเมืองเลย หนุนใช้ FTA ขยายส่งออก ‘แก้วมังกร’ ไปตลาดโลก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เกษตรกรให้ความสนใจกับกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจเพื่อหาตลาดใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งทางกรมฯ ได้ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ

เนื่องจากประเทศที่ไทยมี FTA กับ 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 8 ประเทศ ยกเว้นมาเลเซีย ที่ยังคงเก็บภาษีศุลกากรแก้วมังกรที่ส่งออกจากไทยที่ร้อยละ 5 จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู ได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับแก้วมังกรส่งออกจากไทยแล้ว และเกาหลีใต้ ยังคงเก็บภาษีศุลกากรที่ร้อยละ 36 จึงเป็นโอกาสดีของเกษตรกรผู้ปลูกแก้วมังกรของไทยในการขยายตลาดส่งออก นอกจากนี้ หลังจากที่ไทยและซาอุดีอาระเบียกลับมาฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน น่าจะเป็นโอกาสดีของการขยายตลาดแก้วมังกรไปยังตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นด้วย

โดยจากการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้ปลูกแก้วมังกร ไร่พ่อจอม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดที่ปลูกแก้วมังกรมากที่สุดในประเทศไทย โดยปัจจุบันไร่พ่อจอมปลูกแก้วมังกรหลายสายพันธุ์บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ เน้นการทำเกษตรปลอดภัย ลดการใช้สารเคมีและได้รับตรารับรองเกษตรปลอดภัย Global GAP. และ GAP ทำให้ประสบความสำเร็จในการขายสินค้าภายในประเทศ และสามารถส่งออกไปยังซาอุดีอาระเบียและมัลดีฟส์อีกด้วย

นอกจากนี้ ทางเกษตรกรผู้ปลูกแก้วมังกร ยังเห็นความสำคัญของการพัฒนาหาสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความนิยมของผู้บริโภค จึงหันมาขยายพันธุ์แก้วมังกรเหลืองเอกวาดอร์และแดงเอกวาดอร์ ซึ่งมีรสชาติหวานกรอบ ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ทนทานต่อโรคได้ดี และสามารถขายได้ราคาสูงถึง 400-800 บาท ต่อกิโลกรัม เนื่องจากปัจจุบันยังอยู่ในช่วงระยะช่วงเริ่มต้น ซึ่งจะต้องพยายามขยายผลผลิตให้ได้คุณภาพสม่ำเสมอ เพื่อสนองความต้องการของตลาดต่อไป 

ทั้งนี้ ในปี 2564 ไทยส่งออกแก้วมังกรไปตลาดโลกกว่า 1.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 51 ล้านบาท ขยายตัวถึง 23% จากปี 2563 โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ เมียนมา รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย คูเวต และสปป.ลาว