15 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง แยกเป็นรายจังหวัด 23 จังหวัด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เพื่อให้ทราบถึงเขตทะเลชายฝั่งที่ชัดเจนและสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการลดความขัดแย้งของชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์
อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในเขตทะเลชายฝั่งให้อยู่ในภาวะที่สมดุลสามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน
สำหรับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตทะเลชายฝั่งแยกเป็นรายจังหวัด 23 จังหวัด ได้แก่
โดยกำหนดระยะแนวเขตทะเลชายฝั่งเป็น "เส้นตรงลากผ่านจุดพิกัด" จากเดิมที่กำหนดเป็น "เส้นโค้งเว้า"
ทั้งนี้ ในกรณีที่เขตทะเลชายฝั่งทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามกฎหมายว่าด้วยสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าหรือเขตอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติตามกฎหมายอื่นใด การทำการประมงหรือการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเขตทะเลชายฝั่งนั้นต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดด้วย
นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ.2560 กฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 และกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563
เนื่องจากกฎกระทรวงฯ พ.ศ.2560 เป็นการกำหนดเขตทะเลชายฝั่งของ 9 จังหวัดเป็นเส้นโค้งเว้า ซึ่งทำให้เกิดความไม่ชัดเจนและเป็นปัญหาสำหรับชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย และได้มีการปรับปรุงแนวเขตทะเลชายฝั่งและแผนที่ทะเลชายฝั่งใหม่เฉพาะจังหวัดตราดและชลบุรี โดยออกเป็นกฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 พ.ศ.2563 แต่ยังไม่ครอบคลุมจังหวัดอื่นที่ติดทะเล จึงมีความจำเป็นต้องยกเลิกร่างกฎกระทรวงทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว
นางสาวรัชดา รองโฆษกรัฐบาลกล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากจังหวัดตราด ระนอง สตูล และนราธิวาส มีเขตแดนและเขตทางทะเล ประชิดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ประชุมจึงให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องของค่าพิกัดและแผนที่แสดงแนวเขตบริเวณที่กำหนดแนบท้ายกฎกระทรวงของจังหวัดดังกล่าวกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือด้วย