นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. ,สมาคมธนาคารไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่า กกร. เสนอให้ภาครัฐพิจารณาต่ออายุโครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2565
นอกจากนี้ หากมีการยกเลิกมาตรการ Test & GO จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ในยามที่เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอื่นๆ มีข้อจำกัด และจะทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้เกิน 3%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงที่สุดในรอบ 10 ปี คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 4.9% เป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมากจะเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และกำลังซื้อในประเทศ ดังนั้น แม้ว่าวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน จะกระทบการส่งออกและการท่องเที่ยวโดยตรงไม่มากนัก
แต่ผลจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญอื่นๆ เช่น ปุ๋ย สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะหากไปทำให้ราคาอาหารสดและราคาอาหารสำเร็จรูปปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสุพันธุ์ กล่าวต่ออีกว่า สถานการณ์การส่งออกสินค้าของไทยไปจีน เป็นปัญหาที่ภาคเอกชน ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องขอขอบคุณรัฐบาลในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศที่มีการการเจรจากับรัฐบาลจีนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยรัฐบาลจีน ได้มีการสั่งการให้ส่งเจ้าหน้าที่จีนเข้าตรวจผลไม้ในประเทศก่อนส่งออกไปจีน
รวมทั้งเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การขนส่งผลไม้จากไทยไปจีนอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งสำหรับการดูแลคุณภาพและความปลอดภัย ก็ต้องขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่จะมีการประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ที่มีการส่งผลไม้ไปยังประเทศจีน ให้นำแนวทางปฏิบัติของจังหวัดจันทบุรี เรื่อง มาตรฐานความปลอดภัยจากโควิดในผลไม้ ไปใช้สำหรับเกษตรกรชาวสวน ล้ง และผู้ประกอบขนส่ง
อย่างไรก็ดี กกร. ยังเสนอให้ภาครัฐพิจารณาแผนสำรองในการส่งออกผลไม้ ผ่านทางเรือและทางอากาศ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคผลไม้ภายในประเทศให้มากขึ้น
นอกเหนือจากนี้ ปัญหาการส่งออกทุเรียน ซึ่งเป็นสินค้าหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย เพื่อให้การบริหารจัดการทุเรียนเพื่อการส่งออก มีระบบการจัดการที่มีคุณภาพอย่างปลอดภัย ตามเกณฑ์ GAP,GMP+, SHA โดยคาดหมายว่าจะเริ่มส่งออกทุเรียนไปประเทศจีนผ่านระบบการจัดการดังกล่าว ได้ในเดือนเมษายน 2565
กกร. ตระหนักถึงความสำคัญของการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เศรษฐกิจโดยรวมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 (Covid-19) ทำให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องทุ่มเททรัพยากรเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ และปรับตัวให้อยู่รอด อีกทั้งปัจจุบ้นกฎหมายลำดับรอง ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์
และควรมีเวลาให้ทุกภาคส่วนพิจารณาทำความเช้าใจพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ นี้ด้วย กกร. จึงมีความเห็นว่าภาคเอกชนควรมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะในการพิจารณากฎหมายลำดับรอง จึงเห็นควรเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการบังคับใช้กฏหมายฉบับนี้ไปก่อน