ก๊าซ-นํ้ามัน-ค่าไฟ ขึ้นยกเเผง ขนส่ง-โดยสาร-สินค้าแห่ตาม ผวาดีเซลพุ่ง 40 บาท

 

ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ ออกรายงานเตือนโลกกำลังเผชิญกับภาวะราคาอาหารและสินค้าปรับตัวสูงขึ้น จากผลกระทบสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่มีผลกระทบรุนแรงต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สร้างความเสียหายต่อระบบการค้า การผลิต และการอุปโภคบริโภคทั่วโลก ขณะที่ราคาปุ๋ยที่ต้องใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิต พุ่งขึ้นรุนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี

 

ราคาพลังงานจะพุ่งขึ้นกว่า 50% ในปี 2565 ระดับราคาน้ำมันดิบจะเฉลี่ยอยู่ที่ราว 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาสินค้านอกกลุ่มพลังงาน อาทิ สินค้าโภคภัณฑ์และโลหะ คาดว่าจะพุ่งขึ้นเกือบ 20% ราคาข้าวสาลีจะทะยานขึ้นกว่า 40% ซึ่งยังไม่รวมถึงอินโดนีเซียได้ระงับการส่งออกน้ำมันปาล์ม เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นตามอีก

 

การปรับขึ้นของราคาสินค้า กำลังเริ่มส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและด้านมนุษยธรรมอย่างมหาศาล ครัวเรือนทั่วโลกต่างกังวลถึง "วิกฤติค่าครองชีพ" Peter Nagle นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกระบุครัวเรือนยากจนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ที่ต้องมีรายจ่ายสำหรับค่าอาหารและพลังงานมากขึ้น

 

ล่าสุดกระทรวงการคลัง ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 ว่า จะขยายตัวที่ 3.5% จากที่คาดการณ์ไว้ 4% คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 จะอยู่ที่ 5% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

 

จากปัจจัยต้นทุนที่สูงขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้คนไทยต้องเผชิญกับภาวะค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สวนทางกับรายได้ที่ทรงตัวไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 นี้ เป็นต้น ผู้บริโภค จะต้องแบกรับรายจ่ายที่สูงขึ้นอีกจากภาคพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นไป โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้นไปอีก 2 บาทต่อลิตร เป็น 32 บาทต่อลิตร

 

 

เท่ากับว่าประชาชนต้องมีรายจ่ายกว่า 136 ล้านบาทต่อวัน จากการใช้น้ำดีเซลวันละ 68 ล้านลิตร หรือราว 4 พันล้านบาทต่อเดือน และภายในเดือนพฤษภาคม 2565 หากต้องปรับไปที่ 35 บาทต่อลิตร จะต้องจ่ายเพิ่มเป็น 340 ล้านบาทต่อวันหรือราว 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นต้นทุนส่งไปถึงห่วงโซ่ต่างๆ ทั้งภาคการผลิต ขนส่ง และค่าโดยสาร

 

• ค่าขนส่งจ่อขยับอีก 20%

นายอภิชาติ  ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่สหพันธ์ฯ ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปแล้ว เพื่อขอให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมาอยู่ที่ 25 บาทต่อลิตร จากการดำเนินงานตามมาตรการต่างๆ ที่เสนอไปแล้วนั้น หากวันที่ 1 พ.ค. รัฐบาลปรับราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นอีก 2 บาทต่อลิตร เป็น 32 บาทต่อลิตร และจะทยอยขึ้นจนครบ 35 บาทต่อลิตร ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 ทางสหพันธ์ฯ ก็มีความจำเป็นต้องส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้ประกอบการหรือภาคเอกชนในการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นราว 20% หรือน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นทุกๆ 1 บาทต่อลิตร จะมีผลต่อการปรับค่าขนส่ง 3% ซึ่งจะมีผลต่อราคาสินค้าอุปโภค บริโภคสูงขึ้นตามไปด้วย

 

• ต้นทุนพุ่งสินค้าจ่อปรับราคา

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หากมีการปรับค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 15-20 % จะส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่ง/โลจิสติกส์ ของผู้ประกอบการภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 2.25-3% จะส่งผลให้ราคาขายสินค้าต้องปรับขึ้นอีก 5-10% และตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ที่รัสเซียบุกยูเครน ส่งผลให้ราคาสินค้าวัตถุดิบทุกอย่างปรับตัวสูงขึ้นมาก และสต๊อกวัตถุดิบที่มีอยู่เริ่มร่อยหรอลงอย่างรวดเร็วกว่ากำหนด อาจมีผลิตได้ไม่ถึง 3 เดือน จำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบมาสต๊อกในรอบใหม่ที่มีต้นทุนสูงขึ้นอีก ก็จะส่งผลต่อการปรับราคาสินค้าแน่นอน

 

อีกทั้ง วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ จะครบกำหนดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท หากรัฐบาลไม่ขยายระยะเวลาออกไปจะทำให้ประชาชนแบกรับภาระด้านพลังงานหนักเกินไป เพราะจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลขยับขึ้นมาเป็น 38 บาทต่อลิตร และหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอีกต่อเนื่อง โอกาสที่ราคาดีเซลจะขึ้นไปแตะที่ลิตรละ 40 บาทได้

 

 

ประกอบกับก๊าซหุงต้มเดือน พ.ค.จะปรับเพิ่มขึ้นอีก 15 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม และค่าไฟฟ้ารอบเดือน พ.ค.-ส.ค.ก็จะปรับเพิ่มขึ้นตามค่า Ft ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.00 บาท ทำให้ประชาชนมีภาระเพิ่มขึ้น และราคาสินค้า เงินเฟ้อ และต้นทุนผู้ประกอบการก็จะสูงขึ้นอีก ซึ่งล่าสุดบะหมี่มาม่าเตรียมปรับขึ้นราคาขายส่งอีกซองละ 0.50-1.00 บาทจากราคาวัตถุดิบแป้งสาลี น้ำมันปาล์ม และค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

 

ดังนั้น การลดค่าครองชีพให้กับประชาชน รัฐบาลควรเร่งหามาตรการต่าง ๆ ออกมา ไม่ว่าจะเป็นคนละครึ่งหรือคนละเสี้ยว เพราะเวลานี้ในภาวะการณ์ไม่ปกติ ยังมีเงินเหลือที่รัฐบาลกู้มาประมาณ 7 หมื่นล้านบาท แม้จะมีคนไม่เห็นด้วยว่าเอาเงินมาแจกอย่างเดียว คนรวยก็บอกว่าเอาเงินมาแจกอย่างเดียว แต่คนจนคุณไม่แจกแล้วจะทำอย่างไร ก็มองคนละมุม เงินแค่นี้ไม่มาก แต่คนไม่มีเงินถือเป็นเรื่องใหญ่

 

ค่าโดยสารจ่อปรับตามดีเซล

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่าหากรัฐบาลลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล คงต้องมีการทบทวนเรื่องต้นทุนค่าโดยสารรถสาธารณะที่ใช้น้ำมันดีเซลอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้

 

ปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้ามาหารือเรื่องผลกระทบและค่าโดยสารที่เกิดขึ้น หากผู้ประกอบการต้องการขอปรับขึ้นค่าโดยสาร ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง และต้องรอให้ต้นทุนราคาน้ำมันคงที่ก่อน หรือหารือมาตรการอื่น ๆ มาช่วยชดเชย โดยต้นทุนขนส่งที่สามารถปรับลดได้ เช่น บุคลากร การเดินรถ และสัญญาการเข้าร่วมเดินรถระหว่างรถร่วมเอกชนกับบริษัทขนส่งจำกัด เป็นต้น

 

นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเดินเรือคลองแสนแสบ เปิดเผยว่า หากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นไปตามกรอบที่รัฐบาลกำหนด และปรับขึ้นเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 15 วัน เรือคลองแสนแสบ จะปรับขึ้นค่าขนส่งเส้นทางวัดศรีบุญเรือง-สะพานผ่านฟ้าลีลาส ตามระยะทางเพิ่มขึ้นอีกระยะทางละ 1 บาท คือปรับจาก 9, 11, 13, 15, 17, 19 บาท (9-19 บาท) เป็น 10, 12, 14, 16, 18, 20 บาท (10-20 บาท)

 

ทั้งนี้เป็นการปรับขึ้นราคาตามประกาศคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับเรือเดินประจำทางของกรมเจ้าท่ากระทรวงคมนาคมโดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา เรือคลองแสนแสบได้ปรับขึ้นราคามาแล้ว 1 บาท จากเดิมช่วงราคาระหว่าง 8-18 บาท เป็น 9-19 บาท

 

• อาหารอ่วมต้นทุนพุ่ง

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เผยว่า การลอยตัวน้ำมันดีเซล จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะภาคการขนส่ง และยังส่งผลต่อกำลังซื้อที่ถดถอย ทำให้ต้องจับตาดูว่าจะกระทบต่อการเดินทางเที่ยวในประเทศมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแม้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่สามารถปรับราคาขึ้นได้ เพราะเราต้องทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นตลาดให้คนเดินทางเที่ยวในประเทศ

 

 

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า การลอยตัวน้ำมันดีเซล ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งและวัตถุดิบให้เพิ่มสูงขึ้นไปอีก และยังมีเรื่องการขอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 492 บาทอีก สมาคมฯไม่เห็นด้วยเช่นกัน เพราะจะยิ่งกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารเพิ่มมากขึ้น จึงอยากฝากรัฐบาลทำความเข้าใจกับสหภาพแรงงานด้วย เพราะเจ้าของธุรกิจเจอวิกฤตโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่ทันได้โงหัว ถ้ามาเจอการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่ค่าครองชีพไปดักรออยู่ข้างหน้าแล้ว เท่ากับเป็นการซ้ำเติมธุรกิจมากขึ้น

 

 

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลแพงมาก เริ่มทำให้เรือประมงในแต่ละจังหวัดเริ่มกลับเข้าฝั่งเพื่อเข้ามาจอด เพราะออกไปทำประมง ไม่คุ้มกับต้นทุนที่สูงมาก หากราคาน้ำมันดีเซลบนฝั่งปล่อยลอยตัว จะส่งผลกระทบต่อน้ำมันเขียวที่ใช้ในทะเลขยับตัวสูงขึ้นไปอีก ซึ่งยังไม่เห็นทางออกเรื่องนี้ว่ารัฐบาลจะหาทางช่วยเหลืออย่างไร เพราะต้นทุนที่สูงขึ้นมากส่งผลให้ชาวประมงไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป หรือว่าอาชีพประมงจะล่มสลายเร็วกว่าที่คิด

 

ขณะที่ “ลุมพินี วิสดอม” บริษัทสำรวจและวิจัยอสังหาฯ พบว่า ราคาที่อยู่อาศัยในไตรมาสแรกปี 2565 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5% ผลจากต้นทุนที่ดิน ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง และพลังงานมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนพลังงานและค่าขนส่งที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าก่อสร้างและราคาที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามมาอีก

 

• ค้าปลีกตรึงราคาถึงที่สุด

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า หากรัฐบาลประกาศลอยตัวราคาดีเซล จะทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น และอาจจะมีผลต่อการปรับราคาสินค้าบางประเภท อย่างไรก็ดีเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ร่วมมือกับคู่ค้า ซัพพลายเออร์ในการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น

 

ขณะนี้สมาคมค้าปลีกไทย กําลังเตรียมจัดประชุมเพื่อหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน พร้อมร่างข้อตกลงและขอความร่วมมือในทุกภาคส่วนให้พยายามตรึงราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค หรือผ่อนปรนการขึ้นราคาสินค้า เพื่อให้มีผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด

 

• รัฐบาลพร้อมดูแล

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือจากการปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล โดยเฉพาะกระทรวงพลังงาน ที่มอบหมายให้ไปเร่งทำแผนรองรับมาตรการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้มีกระทบ

 

 

ทั้งนี้ขอให้ผู้ประกอบการภาคขนส่งเข้าใจรัฐบาลด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดูแลตรึงราคาน้ำมันดีเซลมาระยะหนึ่งแล้ว โดยการใช้เงินจากการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปชดเชยราคา 24,302 ล้านบาท และใช้เงินชดเชยราคาก๊าซหุงต้มอีก 31,976 ล้านบาท จนส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯติดลบ 56,278 ล้านบาท และถึงแม้ได้กู้เงินมาเสริม ก็หมดลงไปแล้วเช่นกัน ดังนั้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะดูแลทุกภาคส่วนให้ดีที่สุด และจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อใช้งบประมาณที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพที่สุด

 

หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3779 วันที่  1 – 4 พฤษภาคม 2565