จาก“ไทยมาร์ท บาห์เรน” เวก้า กรุ๊ปส์ ลุยต่อ ปักธง “ไทย มินิ มาร์ท” ในซาอุฯ

 

สถานการณ์ "ไทยมาร์ท บาห์เรน" ปัจจุบันเป็นอย่างไร “อัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์” หรือ “โทนี่” ประธานบริหาร เวก้า กรุ๊ปส์ และประธานศูนย์การค้าไทยมาร์ท บาห์เรน ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้า รวมถึงแผนงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

 

 อัครวุฒิ กล่าวว่า “ไทย มาร์ท บาห์เรน” ตั้งอยู่ที่กรุงมานามา เมืองหลวงของบาห์เรน ที่พื้นที่ศูนย์การค้า รวมที่จอดรถประมาณ 10,000 ตารางเมตร ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าไปเช่าพื้นที่แล้วกว่า 80% โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยที่มีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเองเข้าไปเปิดดำเนินการมากกว่า 90 ร้านค้า ทั้งสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม, แฟชั่นและเครื่องประดับ, สกินแคร์และคอสเมติกส์,ของตกแต่งบ้านและของที่ระลึก,โอท็อป และอื่น ๆ

 

 

• แบรนด์ดังไทยแห่ปักธง

สินค้าที่เข้าไปเปิดดำเนินการในไทยมาร์ทในเวลานี้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าแบรนด์ดังจากผู้ประกอบการไทย อาทิ Sabina, MISS FLORA, FREET, โก๋แก่, ดอกบัวคู่, เฌอเอม (CHER-AIM), THAI HOUSE COSMETICS, SHINE’S, THAI FARM, GIFFARINE, SIAM SECRET, Amsophie, ARGUSSY, Thai kanya, Thai Touch, SUVARNAPHUMI, ChaYang, MISS FLORA Thai cafe, Amango, TAO KAE NOI, THAI LANNA RESTAURANT, SEAGULL เป็นต้น รวมถึงมีอีกหลายแบรนด์ที่กำลังจะเข้าไปเปิดดำเนินการในกลุ่มโรงพยาบาล ร้านอาหาร และอื่น ๆ

 

ทั้งนี้สินค้าที่เข้าไปเปิดดำเนินการ เน้นการขายปลีกให้กับลูกค้าชาวบาห์เรน ชาวซาอุดี อาระเบียที่อยู่ติดกัน รวมถึงลูกค้าจากประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในไทยมาร์ทวันปกติเฉลี่ย 3,000-5,000 คนต่อวัน  และปลายสัปดาห์ (ศุกร์-เสาร์) กว่า 7,000 คนต่อวัน เกิดการจับจ่ายใช้สอยและมีเงินหมุน เวียนในการซื้อขาย 4-5 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งเวลานี้ไทยมาร์ทเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะมีโปรโมตโดยการจัดอีเวนต์เพื่อส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง  คาดจะทำให้ยอดขายของผู้ประกอบการไทยในไทยมาร์ทในอนาคตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

 

Thai Mart บาห์เรน โอกาสทองธุรกิจไทยในตะวันออกกลาง ชมคลิปที่นี่

 

• หลากอีเวนต์กระตุ้นยอด

 “ไทยมาร์ท บาห์เรน" เปิดในลักษณะซอฟต์ โอเพนนิ่ง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ซึ่งตรงกับวันชาติของบาห์เรนโดยตั้งใจให้วันประวัติศาสตร์ของบาห์เรนกับไทยมาร์ทเป็นวันเดียวกัน ท่ามกลางโควิดที่กำลังแพร่ระบาดในเวลานั้น ผู้ประกอบการไทยเดินทางไปร่วมงานไม่ได้ ด่านก็ยังไม่เปิด แต่ผมเกิดจากสายอีเวนต์ จึงคิดนอกกรอบ แทนที่จะรอคนมาเช่าพื้นที่อย่างเดียว ก็คิดหลากหลายรูปแบบ เช่นดึงต่างชาติมาเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ประกอบการไทย พอโควิดคลี่คลายก็จัดกิจกรรม ณ ลานกลางแจ้งเต็มไปหมด”

 

โดยมีการจัดอีเวนต์ตามเทศกาลต่าง ๆ เช่น ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ลอยกระทง เทศกาลผลไม้ สมุนไพรไทย เป็นต้น ซึ่งปลายปีนี้จะจัดมหกรรมตลาดนัด Night Market โดยดึงผู้ประกอบการจากประเทศไทยไปออกร้านและขายสินค้าเป็นเวลา 2 เดือน มีการโปรโมตลงสื่อเต็มที่ โดยคิดค่าใช้จ่ายค่าบูธ รวมที่พักไม่แพง เพียง 125,000 บาท เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยไปร่วมงานและลองตลาดได้มากที่สุด

 

สำหรับนโยบายของเวก้า กรุ๊ปส์ ในปีหน้า ยังมีแผนที่จะร่วมกับทุกหน่วยงานของภาครัฐเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยที่จะไปเปิดตลาดการค้า และขายสินค้าไทยในบาห์เรนและตะวันออกกลาง

 

 

Night Market ตลาดนัดไทย เวทีแจ้งเกิด SMEs ไทยในตะวันออกกลาง ชมคลิปที่นี่

 

• ลุย“ไทยมินิมาร์ท”ซาอุฯ

นายอัครวุฒิ กล่าวอีกว่า นอกจากไทยมาร์ท บาห์เรนที่เน้นการขายปลีกแล้ว ยังถูกออกแบบมาให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าไปในประเทศบาห์เรน และในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลางด้วย ซึ่งจากการที่ประเทศไทยได้ฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียที่อยู่ติดกับบาห์เรน ในการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของคณะภาครัฐและภาคเอกชนไทย ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะปลายเดือนสิงหาคมนี้ ทางเวก้า กรุ๊ป จะร่วมคณะไปด้วย

 

วัตถุประสงค์ร่วมเดินทางครั้งนี้ จะไปโรดโชว์เพื่อขายแนวคิดในการจัดตั้ง “Thai Mini Mart” หรือไทยมาร์ทแบบย่อส่วนในซาอุดีอาระเบีย โดยส่งเสริมการขายส่งสินค้าไทยจากผู้เช่าพื้นที่ไทยมาร์ท บาห์เรน เชื่อมต่อไปยังซาอุดีอาระเบีย มีเป้าหมายที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุฯ และเมืองเจดดาห์ที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงมาก และสินค้าไทยเป็นที่รู้จักและชื่นชอบ โดยมีเป้าหมายนำร่องเปิด Thai Mini Mart ในปีหน้าที่กรุงริยาด 1 สาขา และเจดดาห์ 1 สาขาเพื่อลองตลาด หากไปได้ดีจะขยายต่อไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพของซาอุฯ

 

 “ในเบื้องต้นที่เราวางแพลนไว้ Thai Mini Mart ในซาอุฯจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่เกิน 100 ตารางเมตร ในพื้นที่จะแบ่งเป็นโซนสินค้าโดยเลือกเฉพาะที่เป็นไฮไลต์ ตัวอย่างเช่น ดอกบัวคู่ โก๋แก่ และแบรนด์อื่นๆ เน้นขายส่งสินค้าแบรนด์ไทย 100% แบบยกลัง หรือยกกล่อง โดยลูกค้าคือกลุ่มซาปั๊ว ที่ต้องการสินค้าไทยสามารถซื้อจาก Thai Mini Mart เพื่อไปขายต่อได้ ขณะนี้มีภาคเอกชนซาอุฯที่สนใจจะร่วมทุนกับเราแล้วหลายราย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะทำโครงการ “เอเชี่ยน วิลเลจ” เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ในซาอุฯด้วย” นายอัครวุฒิ กล่าว