นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในภาพอุตสาหกรรมน้ำนมดิบในสัดส่วนของนมพาณิชย์ จะต้องได้ 1,300 ตัน แต่ปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 1,100-1,200 ตัน/วัน เพราะหันมาทุ่มใน โครงการอาหารเสริม (นมโรงเรียน) ที่ใช้เงินงบรัฐอุดหนุนทุกปี ปีละ 14,000 บาท ซึ่งมีปัญหากระทบกับผู้ประกอบการในกลุ่มที่ 1 (กลุ่มที่รับซื้อน้ำนมดิบ) ที่ขอนำเข้านมผง ทำให้ไม่มีน้ำนมดิบไปแลกก็จะนำเข้านมผง
ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจึงร้องมาที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้กรมหาน้ำนมดิบให้ เพราะผู้ประกอบการไม่ขายน้ำนมดิบให้ เช่น สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ปีที่แล้วเคยขอนำเข้านมผง 20 ตัน แต่ปีนี้ไม่มีน้ำนมดิบไปแลก เพราะน้ำนมดิบมาอยู่ฝั่งนมโรงเรียนทั้งหมด จึงทำให้มีการร้องเรียนว่าเอ็มโอยูไม่เป็นธรรม จึงได้มีหนังสือเพื่อขอให้ล้มเอ็มโอยู
“วันนี้ต้องสะท้อนปัญหาต่อไปในอนาคตนมในประเทศไทยจะไม่มีแล้ว เหลือแต่รายใหญ่ วันนี้บางรายเอกชนซ้อนซื้อน้ำนม ช้อนซื้อวัวจากเกษตรกร สหกรณ์ ไปจนเกือบจะหมดแล้ว”
แหล่งข่าวกรมส่งเสริมสหกรณ์ เผยว่า มีหนังสือมาจาก นายอำนวย ทงก๊ก ประธานสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ได้ทำหนังสือถึงกรมปศุสัตว์ ประธานอนุกรรมการจัดสรร โควตานำเข้านมผงขาดมันเนย เรื่อง ขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาดมันเนย ด้วยสหกรณ์ โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ได้รับหนังสือจากกรมส่งสริมสหกรณ์ ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการ คณะอนุกรรมการบริหารนมทั้งระบบ ขอสำรวจข้อมูลเพื่อเตรียมการจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) การซื้อขายน้ำนมโด ปี 2565/2566
สหกรณ์ โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ได้แจ้งปฏิเสธการให้ข้อมูลเพื่อเตรียมการจัดทำ MOU ดังกล่าวกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ไปแล้ว เนื่องจากเห็นว่าข้อมูลที่สำรวจในปี 2564/2565ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำนมทั้งระบบ รวมทั้งสิ้น 3,330.29 ตัน/วัน เป็นข้อมูลที่ ไม่น่าเชื่อถือ ขัดแย้งกับสถานการณ์ปริมาณน้ำนมโคที่มีแนวโน้มลดลงอันเนื่องมาจากวิกฤตโรคระบาคทั้งในคนและโคที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาและการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการจัดสรรสิทธิการจำหน่ายนมโรงเรียน ก็ย่อมส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการในหลายครั้งหลายโอกาสที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนมโรงเรียน ได้รวมกลุ่มกันร้องเรียนมาโดยตลอด
อนึ่ง สำหรับการจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาดมันเนย สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ก็เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งที่เป็นผู้ประกอบการที่ขอโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยเอง และเป็นศูนย์รวบรวมน้ำนมโคที่ขายน้ำนมดิบให้กับผู้ประกอบการที่ขอโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยกับกรมปศุสัตว์ในฐานะประธาน และเลขานุการในคณะอนุกรรมการจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาคมันเนยด้วย ซึ่งทราบว่ากรมปศุสัตว์ได้นำบันทึกข้อตกลง (MOU) การซื้อขายน้ำนมโด ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ไปใช้ในการจัดสรร โดวตานำเข้านมผงขาดมันเนยในแต่ละปีด้วยเช่นกัน
แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าข้อมูล MOU น้ำนมโคที่ไม่น่าเชื่อถือ กลับไม่มีผลกระทบในการจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยเลยหรืออย่างไร จึงอยากทราบถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยของกรมปศุสัตว์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และข้อมูล MOU น้ำนมโคที่นำมาใช้ในการจัดสรรโควตา เพื่อประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนมต่อไป