นายสุนทร รักษ์รงค์ กรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สคยท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โครงการชะลอการขายยางก้อนถ้วย ต้องยอมรับว่า คนเรามีต้นทุนและองค์ความรู้ไม่เท่ากันกัน ต้องใจเย็นในการสร้างการรับรู้ เพราะคนจนทั้งผองคือพี่น้องกันโครงการชะลอการขายยางก้อนถ้วย สำเร็จในภาคเหนือ กำลังขยายผลไปภาคอื่น
หลักการ
1.เก็บยางไว้ที่บ้านหรือที่สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ประมาณ 1 เดือน จะได้ยาง DRC 75% ถ้าเก็บยางนานกว่านี้ DRC ก็จะยิ่งสูงขึ้น
2.กยท.ให้งบประมาณมาหมุนเวียน โดยจ่ายเงินให้เกษตรกร 80% ของราคายางวันนั้น ผ่านสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางได้มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
3.สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง สามารถเก็บยางไว้ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน แต่จะตัดสินใจขายช่วงใดก็ได้ที่มีกำไร หรือรอราคายางสูงขึ้น เช่น เก็บตอนนี้ไปขายตอนปิดกรีดราคาจะสูงกว่าตอนนี้
ผลที่ได้รับ
1.แค่เก็บยางไว้ มี DRC 75% ชาวสวนยางจะลดการถูกโกง DRC จาก DRC ตีนเหยียบ คิดเป็นยอดเงินสูงเกือบ 20%
ขยายความก็คือ การซื้อขายยางก้อนถ้วยยังไม่มีเครื่องมือตรวจเปอร์เซ็นต์ยางแห้งในภาคสนาม ทำเฉพาะในโรงงาน พ่อค้าอาศัยสายตาและประวัติการกรีดยางแต่ละพื้นที่ ชาวสวนยางถูกโกงเปอร์เซ็นต์ในขั้นตอนนี้คิดเป็นเงินปีละประมาณ 30,000 ล้าน ถ้าทำยางแห้งจะลดการถูกโกง DRC
2.การเก็บยางเอาไว้ทำให้พ่อค้าไม่สามารถกดราคายางได้โดยสะดวก ผลสำเร็จของโครงการนี้ทำให้ราคายางก้อนถ้วยในช่วงปี 2564-2565 มีราคาเสถียรภาพอยู่ในช่วง 44-52 บาท แต่ตอนนี้ราคายางลงผิดปกติด้วยปัญหาปัจจัยภายนอก ซึ่งช่วงปิดกรีดราคาจะดีขึ้น ผิดกับยางชนิดอื่น เช่น น้ำยางสด ที่ราคายางสวิงมากในช่วงรอบปีที่ผ่านมา
3.ยางก้อนถ้วยเก็บนานน้ำหนักลด แต่เปอร์เซ็นต์ยาง(DRC) สูงขึ้น มีสัดส่วนที่สัมพันธ์กัน จึงไม่ขาดทุนอะไร มีความเสี่ยงแค่ราคาตอนขายสูงกว่าหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่สถาบันจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าควรขายช่วงไหนที่จะไม่ขาดทุน
ข้อเท็จจริง
ยางก้อนถ้วยมีจุดเด่นคือตากแดดตากฝนได้ น้ำจะออกจากก้อนยางทางเดียว เอายางไปแช่น้ำ น้ำก็ไม่เข้า เก็บรักษาไม่ยาก ยางก้อนถ้วยประเทศไทยมีสัดส่วนกว่า 60% ถ้าสามารถเข้าโครงการชะลอการขายยางได้เต็มรูปแบบ จะช่วยพยุงราคายางชนิดอื่นให้สูงขึ้นด้วย ช่วยกันสร้างความเข้าใจ มีข้อสงสัยอะไร ติดต่อการยางแห่งประเทศไทยใกล้บ้านท่าน