ทุ่มงบลงทุน4.5พันล.เร่งซื้อหนี้เอ็นพีแอล
JMT ชี้ผลกระทบมาตรฐานบัญชี IFRS9 กดดันแบงก์เร่งระบายหนี้เสียออก ตั้งงบลงทุนสูงต่อเนื่องปี 62 อีก 4.5 พันล้านบาท ซื้อมูลหนี้ไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท ด้าน CHAYO ตั้งเป้าโต 15% มั่นใจสิ้นปีซื้อหนี้ตามเป้า 1 หมื่นล้านบาท
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิร-อาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์คเซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแผนธุรกิจปี 2562 บริษัทตั้งงบลงทุน 4,500 ล้านบาท เทียบปี 2560 ที่ตั้งงบเพียง 1,500 ล้านบาท โดยมีแผนจะเข้าซื้อหนี้ในปีหน้ามูลหนี้สูงสุดคาดอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท จากมูลหนี้คงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 อยู่ที่ 1.3 แสนล้านบาท
“ปัจจัยบวกที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจในปีหน้า 2 เรื่องคือ ผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 ซึ่งจะทำให้สถาบันการเงินต้องตั้งสำรองหนี้ และเร่งเคลียร์หนี้เอ็นพีแอลออกมาขายจำนวนมาก และภาวะเศรษฐกิจดี การเมืองเข้าสู่การเลือกตั้ง เงินสะพัด ลูกค้ามีกำลังซื้อดีกว่าปีนี้ จึงมั่นใจปี 2562 จะเป็นอีกปีที่บริษัทจะทำเป้าเติบโตของรายได้เพิ่ม 30% จากฐานของสิ้นปีนี้”
ผลประกอบการ 9 เดือนปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 374 ล้านบาท เทียบปี 2560 ทั้งปีมีกำไร 396 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 4/2561 ยังดีต่อเนื่อง บริษัทยังเหลืองบลงทุนในช่วงที่เหลือของปีอีก 2,700 ล้านบาทเพื่อซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหาร โดยอยู่ระหว่างทำดีลซื้อหนี้กับสถาบันการเงิน 3 ดีลมูลค่าหนี้หลักพันล้านบาท หลังจาก 9 เดือนปีนี้ได้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 1,800 ล้านบาท โดยซื้อหนี้เข้ามาบริหาร มูลค่าหนี้รวม 9,000 ล้านบาท
สำหรับพอร์ตหนี้ 1.3 แสนล้านบาท เป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน 1.26 แสนล้านบาท หรือสัดส่วน 97% ของมูลหนี้คงค้าง และที่เหลือ 3,500 ล้านบาทสัดส่วน 3% เป็นหนี้ที่มีหลักประกัน เกณฑ์ในการเข้าซื้อหนี้ บริษัทยังยึดหลักว่าต้องให้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่น้อยกว่า 12%
นายสุทธิรักษ์ กล่าวว่า กลยุทธ์การเติบโตของ JMT ต่อจากนี้จะเป็นการเติบโตทั้งแนวราบ ซึ่งก็คือธุรกิจเดิม และแนวตรงคือธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งโดยเฉพาะบริษัท เจพี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 55% ได้เข้ามารุกตลาด Insure Tech สามารถขยายการเติบโตจากการซินเนอร์ยีภายในกลุ่มเจมาร์ทซึ่งมีฐานลูกค้ารวมกันกว่า 7 ล้านราย เริ่มนำผลิตภัณฑ์ประกันรูปแบบใหม่ออกสู่ตลาดมากขึ้น สนับสนุน JMT ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ให้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ
“ปีหน้าธุรกิจประกันจะเป็นแรงส่งเพิ่มกำไรให้บริษัทแม่อีกทาง หลังจากที่บริษัทได้เข้าไปปรับปรุงกลยุทธ์การทำตลาด ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 คาดสิ้นปีนี้ บมจ.เจพีประกันภัย จะถึงจุดคุ้มทุนจากเดิมที่ขาดทุนหลักร้อยล้าน ปัจจุบันขาดทุนไม่ถึง 5 ล้านบาท คาดจะทำกำไรในปีหน้าดีขึ้นเรื่อยๆ”
ด้านนายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2562 บริษัท จะเน้นกลยุทธ์เชิงรุก โดยเน้นในการซื้อหนี้มาบริหารเป็นหลัก ตั้งงบลงทุน 1,000 -1,200 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อหนี้ประมาณ 800-1,000 ล้านบาท และรองรับธุรกิจปล่อยกู้อีก 200-400 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายรายได้ปีหน้า โตไม่ตํ่ากว่า 15%
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2561 บริษัท เชื่อมั่นว่าจะมีการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้บริษัท อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อหนี้จากสถาบันการเงินจำนวน 5-6 แห่ง รวมมูลหนี้ 4,000-5,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนสิ้นปี ซึ่งจะทำให้ตลอดปีนี้บริษัท จะเข้าซื้อหนี้ได้ไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 ได้ดำเนินการซื้อหนี้แล้ว 9,207 ล้านบาท ส่งผลให้มีมูลหนี้คงค้างอยู่ที่ 38,501 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกันประมาณ 35,780 ล้านบาท และหนี้ที่มีหลักประกันประมาณ 2,721 ล้านบาท
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,419 วันที่ 18-21 พฤศจิกายน 2561