"ธนาคารออมสิน" ต่อลมหายใจชาวสมุย

เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกของไทย มีรายได้จากภาคท่องเที่ยวปีละกว่า 50,000 ล้านบาทหรือคิดเป็นกว่า 95% ของจีดีพีในเกาะสมุย มีจำนวนผู้ประกอบการโรงแรมสูงถึง 660 ราย ต้องกลายเป็นเมืองร้างทันที หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เหตุเพราะพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูงกว่า 90% ดังนั้นเมื่อต้องปิดประเทศ ต่างชาติเข้ามาไม่ได้ ส่งผลให้ธุรกิจต้องเผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง 

จึงเป็นที่มาของโครงการสมุยโมเดล ของธนาคารออมสินที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ การผ่อนปรณเงื่อนไข การให้สินเชื่อดอกเบี้ยตํ่า และการรีไฟแนนซ์ รวม 2,500 ราย วงเงิน 2,000 ล้านบาท

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสินเปิดเผยว่า ธนาคารตั้งใจเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการแบบครบวงจร เพื่อประครองให้ธุรกิจสามารถไปต่อและมีการรักษาการจ้างงานต่อไปได้ ผ่านโครงการ ออมสินเพื่อสมุย โดยอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 2,500 ราย จะทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบ 1,500 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชน ร้านค้าหาบเร่ แผงลอย มีเงินทุนหมุนเวียนไปประกอบอาชีพและดำเนินชีวิต ขณะที่สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี จะพักชำระหนี้เงินต้นไปจนถึง 1 มกราคม 2565 และช่วยเหลือด้านภาระหนี้ 500 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 446 ล้านบาท

ธนาคารจะทำโครงการออมสินชวนเที่ยวสมุย เปิดตัวในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเป็นโครงการต่อเนื่อง เพื่อปลุกกระแสการท่องเที่ยวในเกาะสมุย โดยจะให้ลูกค้าที่ยังไม่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ย นำวอยเชอร์ ที่พักโรงแรมมาชำระหนี้ดอกเบี้ยได้ สูงสุดไม่เกิน 50% ของดอกเบี้ย เพื่อแบ่งเบาภาระการผ่อนชำระให้กับผู้ประกอบการจากนั้นธนาคารจะนำวอยเชอร์ดังกล่าว ไปทำการตลาดต่อและทำแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับเกาะสมุยซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับสายการบินเพื่อจัดโปรโมชัน ร่วมกับตั๋วเครื่องบินราคาถูก เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในสมุยอย่างครบวงจร

“แม้เราจะลงมาช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ผ่านวิกฤติไปได้ แต่เพื่อความยั่งยืน ผู้ประกอบการยังต้องการแรงสนับสนุนจากส่วนอื่นด้วย โดยเฉพาะการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับเกณฑ์การคิดหนี้เสีย จากปกติค้างชำระไม่เกิน 3 เดือนจะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ขยายให้เป็น 1 ปี รวมทั้งสั่งการให้สถาบันการเงินพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการในสมุยเป็นระยะเวลา 1 ปี และขยายเพดานเวลาการหนี้จากเดิมออกไปอีก 10 ปี และคิดอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได เพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่รอด”

ด้านนายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีกล่าวกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า การเข้ามาช่วยของออมสิน เชื่อว่าจะสามารถต่อลมหายใจให้กับผู้ประกอบการได้ แต่สิ่งที่ต้องการเพิ่มคือ ให้ออมสินผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อ ให้ผู้ประกอบการขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะขณะนี้มีผู้ประกอบการหลายรายถูกปฏิเสธสินเชื่อ โดยขอให้กลับไปเจรจาขอสินเชื่อเพิ่มเติมกับสถาบันการเงินรายเดิมที่เป็นลูกค้ากันอยู่ก่อน ทำให้เสียเวลา เพราะสุดท้ายแล้ว สถาบันการเงินรายเดิมก็ไม่เพิ่มวงเงินสินเชื่อใหม่ให้ 

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวเกาะสมุยล่าสุด ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2563 ยอดจองห้องพักเข้ามาเพิ่มขึ้น 15% เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นเดือนที่มียอดเข้าพักประมาณ 8-10% ขณะที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 มียอดจองห้องพักเข้ามาประมาณ 30% ซึ่งถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงที่เกิดโควิด-19 เป็นอย่างมาก โดยเป็นผลจากการลดราคาตั๋วเครื่องบินและการลดค่าห้องพักลงกว่า 70% รวมถึงโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐ ซึ่งมียอดจองผ่านโครงการดังกล่าวมายังสมุยถึง 60% 

อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปจนถึงสิ้นสุดโครงการเราเที่ยวด้วยกันในช่วงเดือนเมษายน 2564 แม้จะเชื่อว่า จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสมุยเพิ่มมากขึ้นอีก แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และรายย่อยต่างๆ ยังคงต้องการเงินทุนก้อนใหม่จากสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อกลับมาเริ่มต้นทำมาหากินได้อีกครั้ง

เช่นเดียวกับนายวิรัช พงศ์ฉบับนภา นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมพาวิลเลี่ยน สมุย วิลล่าแอนด์รีสอร์ท หาดละไม ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย ที่ต้องการได้เงินทุนเวียนในการจ้างงานลูกน้องที่มีกว่า 100 ชีวิต ให้รอดพ้นช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ไปให้ได้ อย่างน้อย 10 ล้านบาท เพราะแม้ปัจจุบันโรงแรมจะกลับมาเปิดให้บริการครบ 91 ห้อง โดยลดราคาค่าห้องพักลงกว่า 70% แล้ว แต่จำนวนการเข้าพักมีเพียง 0-5% เท่านั้น เพราะนักท่องเที่ยวที่นี่จะจากฝั่งยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมัน หรือจากอิสราเอล และจีนเป็นหลัก 

“ที่ผ่านมาสถาบันการเงินของไทยเกือบทุกแห่งปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อหรือ รีไฟแนนซ์ให้กับผู้ประกอบการโรงแรมในสมุยผู้ประกอบการจึงขาดสภาพคล่อง และหมดความสามารถในการชำระหนี้ ทำให้กิจการส่วนหนึ่งถูกยึดโดยธนาคารจีน ที่เข้ามาปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ จึงเป็นห่วงว่า หากปล่อยไว้ อาจทำให้ทุนจีนเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการของไทยในสมุยไปได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะทำให้คนไทยเสียหายเป็นอย่างมาก”

ดังนั้นการยื่นมือเข้ามาช่วยของออมสิน จะทำให้ธุรกิจของไทย ยังคงเป็นของคนไทยอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าการให้สินเชื่อธรรมดา 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,635 วันที่ 13 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563