นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์ COVID-19 ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมากจากมาตรการเร่งฉีดวัคซีน รวมทั้งมาตรการอัดฉีดทั้งการเงินและการคลังของแต่ละประเทศ ทำให้เศรษฐกิจในประเทศหลักๆ อย่างสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปกลับมาฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น ทำให้ราคาหุ้นในบางประเทศมีการปรับตัวขึ้น
ขณะที่ผลตอบแทนของตราสารหนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำ บลจ.ยูโอบี มองว่า ด้วยภาวะการลงทุนที่ยังคงมีความผันผวน และการเติบโตของเศรษฐกิจเกิดขึ้นเฉพาะในบางประเทศ ดังนั้น การสร้างความสมดุลให้กับพอร์ตการลงทุนด้วยการกระจายการลงทุนไปในหลากหลายสินทรัพย์ จึงยังคงมีความสำคัญต่อการลงทุนในช่วงภาวะตลาดเช่นนี้
ทั้งนี้ การเร่งปูพรมฉีดวัคซีนในสหรัฐฯและหลายประเทศในยุโรป ทำให้อัตราการติดเชื้อ COVID-19 ลดลงอย่างมาก ซึ่งโอกาสในการได้รับวัคซีนที่แตกต่างกันถูกสะท้อนชัดเจนในตัวเลขเศรษฐกิจ โดยกลุ่มประเทศที่มีการฉีดวัคซีนในสัดส่วนสูงจะมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการผลิตและการบริการที่ชัดเจน
ทำให้องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ(OECD) ปรับคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของเดือนพฤษภาคม 2564 โดยประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2021 จะอยู่ที่ 5.8% สูงกว่าคาดการณ์เดิมในเดือนธันวาคมที่มองไว้เพียง 4.2% ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯคาดว่า GDP จะสามารถเติบโตได้แข็งแกร่งถึง 6.9% ในปีนี้ สูงกว่ากลุ่มยูโรปและญี่ปุ่นที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.3% และ 2.6% ตามลำดับ ขณะที่จีนจะยังขยายตัวได้ดีที่ 8.5%
จากสภาพคล่องในระบบจากการอัดฉีดนโยบายการเงินและการคลังทั่วโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น ทำให้ราคาของหุ้นจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นได้ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ แม้ว่า การเลือกลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ทางเลือก มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ แต่เศรษฐกิจในบางภูมิภาคอาจผ่านจุดการเติบโตสูงสุดไปแล้ว และการที่นโยบายทางการเงินในอนาคตมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น อาจจะเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดในภาพรวม
บลจ.ยูโอบี ประเมินว่า ราคาสินทรัพย์ประเภทต่างๆ จะมีความผันผวนสูงขึ้นในช่วงต่อจากนี้ ดังนั้นการจัดพอร์ตลงทุนที่กระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์อย่างสมดุล จะเป็นวิธีการบริหารการลงทุนที่สำคัญภายใต้ภาวะตลาดที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเลือกลงทุนในตลาดหรือในบริษัทที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี รวมถึงกระจายการลงทุนไปยังธีมที่จะได้รับประโยชน์ในระยะยาวจากกระแส Megatrends ต่างๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล บาลานซ์ ฟันด์ (UGBF) และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล บาลานซ์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (UGBFRMF) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ JPMorgan Investment Funds – Global Balanced Fund class: JPM Global Balanced C (acc) - USD (hedged) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวผ่านการลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ของบริษัททั่วโลก และอาจมีการใช้ตราสารอนพุันธ์ตามความเหมาะสม กองทุนหลักมีความยืดหยุ่นสามารถลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ เพื่อแสวงหาโอกาสเติบโตของผลตอบแทนในทุกภาวะตลาด นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในบริหารความผันผวนด้วยการกระจายและปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับแต่ละสถานการณ์การลงทุน (all weather)
”ในสถานการณ์ที่ผันผวนเช่นนี้ การลงทุนที่มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนสินทรัพย์ได้ตลอดเวลา จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะเข้ามามีบทบาททำให้พอร์ตการลงทุนเกิดความสมดุลและเพิ่มโอกาสแสวงหาโอกาสจากการลงทุนได้ ทางบลจ.ยูโอบี จึงได้นำเสนอกองทุนดังกล่าว คือ UGBF สำหรับนักลงทุนทั่วไป และ UGBFRMF สำหรับนักลงทุนที่ต้องการออมระยะยาวเพื่อการเกษียณพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย”นางสาวรัชดา