เดือนสิงหาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่มีการประกาศขึ้นเครื่องหมายผู้ซื้อไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) โดยนักลงทุนจะเข้าซื้อเพื่อรอรับเงินปันผลที่จะจ่ายในช่วงเดือนกันยายน โดนเฉพาะช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน หุ้นกลุ่มที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอและต่อเนื่องจะได้รับความสนใจมาก เพราะนอกจากได้เงินปันผลแล้ว ยังสามารถถือในระยะยาว เพื่อหลบหลีกจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ภายนอกได้
รายงานข่าวจากตลท.เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคม 2564 มีบจ.ที่ขึ้นเครื่องหมาย XD จำนวน 175 ราย รวมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเริ่มทยอยจ่ายเงินในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 โดยเป็นบจ.ที่อยู่ในดัชนี SET50 จำนวน 19 ราย และเพิ่มขึ้น 25 รายเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่มีีบจ.ที่ขึ้น XD จำนวน 150 ราย
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ช่วงเดือนสิงหาคมจะเป็นโอกาสและจังหวะที่ดีของนักลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดี แข็งแกร่ง และได้รับผล กระทบจากการระบาดของโควิด -19 น้อยมาก โดยการเลือกหุ้นช่วงนี้ต้องพิจารณาพื้นฐานเป็นหลัก ส่วนอัตราการจ่ายเงินปันผลถือเป็นของแถม
อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินปันผลของบจ.ส่วนใหญ่ยังคงปกติ บจ.หลายแห่งไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีภาระหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดจ่ายและยังมีสภาพคล่องที่เพียงพอ ขณะที่บางกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างกลุ่มท่องเที่ยว ไม่สามารถจ่ายได้จากภาระหนี้ที่สูง สภาพคล่องตึงตัว
ขณะที่มีบางรายที่อยู่ในฐานะที่จ่ายได้ แต่เลือกที่จะไม่จ่าย เพราะต้องการสำรองเงินไว้ในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บางรายเลือกไม่จ่ายเงินปันผล เนื่องจากต้องการสำรองสภาพคล่องไว้เพื่อชำระหนี้ที่จะครบกำหนดในอีก 6 -12 เดือนข้างหน้า ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์โควิด-19 ได้ว่า จะยืดเยื้อไปอีกนานหรือไม่
สำหรับหุ้นปันผลที่จ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงและให้ผลตอบแทนดีคือ บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) (TVO) หุ้นละ 1.37 บาท ผลตอบแทน 3.88%, บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH) หุ้นละ 0.25 บาท ผลตอบแทน 3.11%, บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) (DRT) หุ้นละ 0.22 บาท ผลตอบแทน 2.99%, บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AIT) หุ้นละ 0.70 บาท ผลตอบแทน 2.64%
บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (FSMART) หุ้นละ 0.26 บาท ผลตอบแทน 2.41%, บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI) หุ้นละ 0.50 บาท ผลตอบแทน 2.38%, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TU) หุ้นละ 0.45 บาท ผลตอบแทน 2.11% และบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KEX) หุ้นละ 0.743 บาท ผลตอบแทน 1.76%
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ จำกัดกล่าวว่า หุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลงวดนี้มากกว่า 2% แนะนำหุ้น TU, บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (STGT), บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) (SMPC), บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (PROSPECT) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 สิงหาคม ส่วน LH และ SPALI ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 สิงหาคม และTVO ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 สิงหาคม 2564
บล.เอเซีย พลัส จำกัดระบุว่า หุ้นปันผลที่แนะนำ คือ SPALI คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2564 เติบโต 133% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 312% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมสูงกว่าคาด และ TVO คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 726 ล้านบาท เติบโตจากยอดขายขยายตัวขึ้น ตามปริมาณการขายกากถั่วเหลือง รวมถึงทิศทางราคากากถั่วเหลืองในประเทศที่สูงขึ้น
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,707 วันที่ 22 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564