รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (20 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่ทำเนียบรัฐบาล ผ่านการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ในเวลา 13.30 น.
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐครั้งนี้ ต้องจับตาการพิจารณาปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของประเทศ จากปัจจุบันกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 60% ของจีดีพี ว่าจะขยายกรอบเพดานการก่อหนี้เพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 70% หรือไม่
ความจำเป็นที่จะต้องขยายกรอบเพดานหนี้สาธารณะดังกล่าว เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคตหากจะต้องมีการออก พ.ร.ก.เงินกู้เพิ่มเติม เพื่อนำมาใช้สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ถูกผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี, รมว.คลัง, ปลัดกระทรวงการคลัง, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.), ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ทั้งนี้ ข้อมูลหนี้สาธารณะ คงค้าง ณ เดือน กรกฎาคม 2564 อยู่ที่ 8,909,063.78 ล้านบาท คิดเป็น 55.59%ของจีดีพี ประกอบด้วย หนี้รัฐบาล 7,836,723.70 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 781,052.43 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกัน 284,141.61 ล้านบาท และหนื้หน่วยงานของรัฐ 7,146.04 ล้านบาท
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะประมาณการจีดีพีของไทยในปีนี้จะมีมูลค่า 16,027,047.59 ล้านบาท หากมีการขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ของจีดีพีจะทำให้เพดานการก่อหนี้อยู่ที่ 11,218,933.313 ล้านบาท นั่นหมายความว่าจะทำให้รัฐบาลมีช่องทางกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อมาใช้แก้ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิดประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท