นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงกรณี ธ.ก.ส.สาขาแม่เหียะ ปล่อยกู้ให้แม่ค้าในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำมาสร้างบ้านแต่บ้านก่อสร้างไม่เสร็จ ว่า การปล่อยกู้ดังกล่าวเป็นไปตามโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อนำไปสร้างที่อยู่อาศัย สำหรับครอบครัว ซึ่งการกู้เงินดังกล่าวไม่สามารถซื้อบ้านที่ก่อสร้างแบบแล้วเสร็จ แต่เป็นการกู้เพื่อนำไปปลูกบ้าน หรือซ่อมแชมบ้านได้ โดยมีการจ่ายเงินตามงวดของงานที่แล้วเสร็จ เพื่อให้การใช้เงินเป็นไปตามวัตถุประสงค์
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ไม่ได้มีการปล่อยกู้โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว โดยในการกู้ต้องมีหลักฐานประกอบ เช่น หลักทรัพย์ค้ำประกันหรือผู้ค้ำ ที่มาของรายได้ รวมถึงความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินกู้ เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งมีการอนุมัติตามวิธีปฏิบัติ และโอนเงินแต่ละงวดทั้งหมดเข้าบัญชีผู้ร้องเรียนครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์ อีกทั้งมีหลักฐาน สลิปการถอนเงินด้วยตัวเองของแม่ค้าผู้กู้
ส่วนกรณีปัญหาระหว่างลูกค้ากับผู้รับเหมา ซึ่งมีข้อบกพร่องในการปฏิบัติตามสัญญาก่อสร้าง ซึ่งธนาคารได้ช่วยประสานงานการเจรจากับผู้รับเหมาอยู่ แต่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ธนาคารจึงขยายเวลาปรับโครงสร้างหนี้ช่วยเหลือให้
นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างความกระจ่างแก่ลูกค้าผู้กู้และผู้รับเหมา รวมถึงสังคมมีความเคลือบแคลงสงสัย ธนาคารได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งหากตรวจพบว่ามีพนักงานของ ธ.ก.ส.เข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ธนาคารจะดำเนินการเอาผิดทางวินัยของธนาคาร รวมถึงลงโทษตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามหากไม่พบความผิด ก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่พนักงานด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ หากเกษตรกรลูกค้าพบเห็นพนักงาน มีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต คอรัปชั่น หรือประพฤติมิชอบในทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ทุกสาขา