รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ระบุว่า บรรยากาศการซื้อหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย วันนี้(8 มี.ค.) ยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ผันผวนอย่างหนัก โดยระหว่างวันลงลึกถึง 49.50 จุด หลัดระดับ 1,600 จุด ก่อนจะรีบราวด์ขึ้นมา ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,619.10 จุด ลดลง 7.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 149,938.39 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 573 หลักทรัพย์ ลดลง 1,424 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 398 หลักทรัพย์
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
ขณะที่การซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่มพบว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 800.08 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 2,763.69 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 716.17 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,847.61 ล้านบาท ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีถึง 8 มีนาคม นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยแล้ว 84,010.19 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย วันนี้ผันผวนค่อนข้างมาก หลังจากต้นภาคช่วงเช้ารีบาวด์ขึ้นมาในแดนบวกได้ ก่อนจะปรับตัวลดลงไปลึกถึง 45.90 จุด จากนั้นดีดกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุดได้
"ยังคงต้องติดตามสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อ แม้ประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบทางตรง แต่เป็นผลกระทบทางอ้อมจากราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น"น.ส.ธีรดากล่าว
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวด์ได้ หลังจากภาพรวมดัชนีสองวันนี้ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว แต่ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความคืบหน้าของการเจรจาเพื่อหาทางออก โดยให้แนวรับ 1,600 จุด และ แนวต้าน 1,640 จุด