Dow Theory กล่าวว่า หุ้นจะเปลี่ยนแนวโน้มต้องเกิดการยก Low และ Break High ถึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้น และถ้ายก Low และยก High ขึ้นไปเรื่อยๆ แปลว่า หุ้นมีแนวโน้มขึ้น ส่วนจุดเริ่มต้นของขาลงคือ ราคาทำจุดสูงสุดต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนหน้าและทำจุดต่ำสุดทะลุแนวต่ำสุดก่อนหน้า อันนี้เป็นสิ่งที่นักเทรดต้องให้ความสนใจเรื่องของการสิ้นสุดของชุดขาขึ้น และถ้าราคายิ่งทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดต่ำกว่าของเดิม นั้นหมายถึงแนวโน้มเป็น ขาลง
สำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่ซื้อขายตามใจตัวเองควรจะศึกษา Dow Theory ไว้บ้างนะครับ เพราะ จริงๆแล้วสิ่งที่เห็นทุกวันนี้คือ นักเทรดที่ชอบซื้อหุ้นในราคาต่ำๆ หรือ ยิ่งต่ำยิ่งซื้อ แต่ยังไม่รู้ว่าหุ้นตัวเองอยู่ในแนวโน้มอะไร อันนี้ควรศึกษาให้มากนะครับ เพราะคุณจะได้อยู่รอดในตลาดหุ้นได้อย่างยาวนาน
ในส่วนของการวางแผนที่จะซื้อหุ้น แบ่งได้ดังนี้
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ที่สำคัญคือคุณห้ามสวนแนวโน้มหลัก
ในเรื่องของการขายทำกำไร
ดังนั้นก่อนการเทรด ควรวางแผนการเทรด อาจจะใช้ทฤษฏีใดอ้างอิงก็ได้ ซึ่ง Dow Theory ก็เป็นทฤษฏืนึงที่นักลงทุนใช้กันอย่างแพร่หลาย สิ่งสำคัญ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จะวางแผนการเทรดทุกครั้งก่อนเข้าเทรด เพราะแผนการเทรดจะทำให้รู้จุดทำกำไรหรือตัดขาดทุน เพราะวางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง