ถ้าพูดถึง นักกีฬา ทุกคนคงจะเข้าใจตรงกันว่า หมายถึงผู้ที่ต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และมีวินัยในการฝึกซ้อมเพื่อดึงศักยภาพทางร่างกายออกมาให้มากที่สุด บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในกีฬาฟุตบอลอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ได้รางวัลยอดนักแตะ บัลลง ดอร์ ถึง 7 สมัย ในวัยเพียง 34 ปี ภายใต้ยอดภูเขาแห่งความสำเร็จนั้น เมสซี่เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 5 ขวบ มีปัญหาด้านการเจริญเติบโตของร่างกายน้อยกว่าคนปกติเนื่องจากขาดฮอร์โมนบางตัว โดนใบแดงให้ออกจากการแข่งตั้งแต่นัดแรกที่ลงเล่นทีมชาติ
ความผิดหวังท้อแท้และปัญหาที่เจอคงหนักเกินกว่าที่ใครคนอื่นจะเข้าใจ แต่เขาเลือกที่จะอดทนต่อสู้ในเส้นทางความฝันจนกลายมาเป็น ลิโอเนล เมสซี่ ยอดนักแตะในปัจจุบัน อาชีพ นักลงทุน ก็ไม่ต่างกันก่อนประสบความสำเร็จทุกคนต้องผ่านปัญหาอุปสรรคมากมาย ทั้งผิดพลาด ผิดหวัง และล้มเหลว หลายคนยอมแพ้เดินออกจากตลาดหุ้น เหลือไว้ซึ่งผู้ชนะก้าวขึ้นเป็นตำนาน
จากประสบการณ์ที่ผมอยู่ในตลาดหุ้นมาเกือบ 10 ปี ทำเพจเฟซบุ๊กเพื่อแชร์ความรู้ถามตอบแฟนเพจ และได้ให้คำปรึกษาคนรอบตัว ผมแบ่งนักลงทุนออกเป็น 3 กลุ่ม ตามระยะเวลาของประสบการณ์
(ข้อแนะนำ : ช่วงแรกนี้สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ การจดบันทึก เพื่อติดตามการลงทุน)
(ข้อแนะนำ : หมั่นทบทวนฝึกฝนแนวทางของตนเองให้เชี่ยวชาญ อย่าไขว้เขวไปกับสิ่งเร้าภายนอก)
(ข้อแนะนำ : ต้องพัฒนา Mindset ให้เติบโตไปกับการลงทุน พอร์ตจะขยายได้แค่ไหนขึ้นอยู่กับ Mindset ที่ครอบมันเอาไว้)
เป็นที่น่าเสียดายนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สามารถผ่านช่วง Survival ไปได้ หรือยิ่งไปกว่านั้นคือไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในช่วงไหนของการลงทุน โดยเส้นทางการลงทุนจริงๆ แล้วอาจไม่ได้วัดจากระยะเวลาเสมอไป แต่มันขึ้นอยู่ที่การเชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้และประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับผ่านรอบของตลาด
นักกีฬาอาชีพฝึกซ้อมร่างกายอย่างหนักเพื่อดึงสมรรถภาพทางกายออกมาให้มากที่สุดในยามแข่งขัน แต่ในด้านการลงทุนเราอาศัยสมรรถภาพทางจิตใจเป็นสำคัญ ทั้งในจังหวะการตัดสินใจซื้อขายและการต่อสู้กับสภาวะไม่ปกติทางอารมณ์มีทั้งความโลภ โกรธ หลง และกลัว ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาไม่ว่าจะขึ้นหรือลง นักลงทุนจึงจำเป็นต้องฝึกควบคุมจิตใจไม่ให้หลงไปกับอารมณ์ตลาด เวลากำไรก็อย่าหลงจนลืมตัว เวลาขาดทุนก็อย่าทุกข์จนเกินไป พยายามประคองจิตใจให้เป็นปกติสุข มีสติรู้ตัวผ่านทุกช่วงเวลาของรอบตลาด
การฝึกซ้อมของนักกีฬามีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่ประเภทของกีฬา จุดอ่อนและจุดแข็งของนักกีฬา การวางแผนฝึกฝนของนักลงทุนแต่ละคนจึงมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแนวทางการลงทุน และจุดอ่อนจุดแข็งของนักลงทุนแต่ละคนเช่นกัน ตัวผมเองมักจะแบ่งนักลงทุนออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ
นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทั้งความรู้ด้านการลงทุนและสภาวะทางจิตใจ เพราะทั้งสองเป็นสิ่งสำคัญที่จะพาเราเดินไปถึงเป้าหมายของการลงทุน
ในช่วงแรกของการลงทุนนั้นจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนด้านพื้นฐานและเทคนิคอลเพราะเป็นเรื่องที่เราไม่เคยเรียนรู้มาก่อน จะใช้เวลามากขนาดไหนขึ้นอยู่กับความขยันและทุ่มเทของนักลงทุนแต่ละคน ซึ่งความรู้ในส่วนนี้หาได้ทั่วไปจากหนังสือและเพจความรู้ต่างๆ
การฝึกสภาวะทางจิตใจเราจำเป็นต้องมีสติรับรู้ความรู้สึก ณ ขณะนั้นเรากำลังโลภ โกรธ หลง หรือมีความกลัว อาจจะสังเกตได้จากจังหวะการหายใจที่ถี่ขึ้น จังหวะการเต้นหัวใจที่เร็วขึ้น หรือเหงื่อที่ซึมออกทางฝ่ามือ ก่อนการตัดสินใจซื้อขายเราต้องปรับสภาวะทางจิตใจให้กลับมาปกติก่อนเสมอ ในการฝึกฝนส่วนนี้สามารถคาดการณ์อนาคตเส้นทางการลงทุนได้เป็นอย่างดี ผู้ที่ฝึกฝนและทำได้ดีจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าเสมอ
เมื่อเรารู้ตัวว่าสนใจการลงทุนก็ต้องให้เวลาตัวเองได้เรียนรู้ ได้ทดลองทั้งการเก็งกำไรระยะสั้นและการลงทุนระยะยาวค้นหาแนวทางที่ชอบ ฝึกฝนความรู้และการควบคุมอารมณ์ เส้นทางการลงทุนนั้นแสนยาวไกลต้องพบเจออุปสรรคมากมาย การลงทุนนั้นไม่ง่ายอย่างที่เราคิดและก็ไม่ได้ยากอย่างที่เรากลัว
สิ่งที่ผมอยากให้นักลงทุนทุกคนมีติดตัวตั้งแต่แรก คือ การไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเจอปัญหาใดๆเราต้องมั่นใจว่าเราจะผ่านไปได้ ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนเรามั่นใจว่าจะทำมันสำเร็จ เมื่อผิดพลาดเราแก้ไข ยามล้มเหลวเราประคองตัวเองลุกขึ้นสู้ใหม่ อดทนเพื่อความฝัน ฝึกซ้อมและทำออกมาให้ดีที่สุด
ทิวเขาอันสวยงามธรรมชาติไม่ได้รังสรรค์ชั่วข้ามคืน ยอดเขาแห่งความสำเร็จไม่ได้เกิดเพียงข้ามวัน ผมเป็นกำลังใจให้นักลงทุนทุกคนก้าวสู่ความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจครับ