ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้ลงนามในหนังสือ เรื่อง การลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่งไปยัง บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด โดยกำหนดให้มีการลงนามในสัญญาโครงการ ในวันที่ 3 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ กรมธนารักษ์
โดยในการลงนามสัญญาบริหาร ยังกำหนดให้ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ต้องชำระเงินตามเงื่อนไขของสัญญาในวันลงนามในสัญญาฯ ได้แก่ ค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา เป็นเงินจำนวน 580,000,000 บาท ค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายปี ปีที่ 1 เป็นเงิน 44,644,356 บาท มาชำระให้กรมธนารักษ์ในวันลงนามในสัญญาเช่าโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งวางหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา เป็นเงินจำนวน 118,479,500 บาท
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์สามารถดำเนินการลงนามสัญญากับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ให้เป็นผู้บริหารโครงการฯ ในฐานะผู้ชนะการประมูลได้ทันที
หลังก่อนหน้านี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หรือ EEC ที่มีนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นนท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลังเป็นประธาน
ได้ส่งผลตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ตามที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ตรวจสอบซ้ำ ซึ่งผลออกมาแล้วว่าการดำเนินการจัดประมูลมีความโปร่งใสและถูกต้องในทุกขั้นตอน
โดยนายอาคมยังได้กำชับให้มีความรอบคอบและรัดกุมในการส่งมอบโครงการฯ โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปดูแล ตั้งแต่เรื่องการตรวจสอบทรัพย์สิน จนถึงกระบวนการส่งมอบให้บริษัท วงษ์สยามฯ รวมทั้งดำเนินการตามที่อัยการฯ ตั้งข้อสังเกตมาทั้ง 13 ข้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นย้ำในเรื่องของความรัดกุมและโปร่งใส