นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวหลังการแถลงผลประชุม กนง. ว่า การเคลื่อนไหวค่าเงินบาท ยังเป็นไปตามกลไกตลาดไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด โดยยังเป็นไปตามปัจจัยพื้นฐานของประเทศ
แต่ในช่วงแรกอาจแข็งค่าเร็ว และมากกว่าค่าเงินของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เพราะได้รับอานิสงส์จากการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวจีน ภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เป็นปัจจัยหลักทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าในระยะนี้
อย่างไรก็ตามทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ กนง. จะยังคงติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด เพราะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ รวมไปถึงภาคธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาค่าเงินบาทเคลื่อนไหวทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า
เป็นผลมาจากปัจจัยภายนอก ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 66 ถึงปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 4-5% แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องมีมาตรการพิเศษออกมาดูแลในตอนนี้