คลังแนะเพิ่มทักษะแรงงาน หนุนเศรษฐกิจไทยโตเต็มศักยภาพ

09 มี.ค. 2566 | 08:26 น.
อัปเดตล่าสุด :09 มี.ค. 2566 | 08:34 น.

รมว.คลัง แนะเพิ่มทักษะแรงงาน หนุนเศรษฐกิจไทยโตเพิ่มอีก 1% ตามศักยภาพ ชี้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน เล็งใช้มาตรการภาษีจ้างงานสูงวัย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน THE NEXT THAILAND’FUTURE จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนของประเทศ ซึ่งขณะนี้มีคำถามว่า เศรษฐกิจไทยเราเติบโตช้ากว่าประเทศอื่นในอาเซียนหรือไม่ ขอเรียนว่า ขณะนี้เศรษฐกิจ ของไทยค่อยๆ ปรับระดับ แสดงให้เห็นว่าเส้นทางการเติบโตจะไปเรื่อยๆ แต่จะสูงสุดเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

"การเติบโตตามศักยภาพของเศรษฐกิจไทยนั้นอยู่ที่ 4-5% แต่เราก็มองว่า จีดีพีของเราในขณะนี้ น่าจะเติบโตได้ 3-4% แต่หากเราสามารถประสิทธิภาพของประชากรได้ ระดับจีดีพีจะเพิ่มขึ้นได้อีก 1% ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มทักษะแรงงาน"นายอาคมกล่าว 

อย่างไรก็ตาม ในแง่เสถียรภาพเศรษฐกิจนั้น ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งในเรื่องของเงินเฟ้อ ทุนสำรองระหว่างประเทศหนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือน โดยในเรื่องของเงินเฟ้อนั้น ขณะนี้ ทยอยปรับลดลง และเรามองว่า จะอยู่ในกรอบ 1-3% ซึ่งรัฐบาลก็ได้ใช้มาตรการทางการเงินและการคลังเข้าไปช่วยดูแล 

ส่วนหนี้สาธารณะอยู่ในระดับ 61.26% ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นจากการกู้เงินขาดดุลงบประมาณ โดยปีงบประมาณ 66 ระดับขาดดุลอยู่ที่ 6.59 แสนล้านบาท ลดลงจากปีงบ 65 เป็นสัญญาณการเข้าสู่การเข้าสู่ความยั่งยืนทางการคลัง ทางด้านทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่นะดับ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐก็อยู่ในฐานะการคลังไม่มีปัญหา 

“เราพูดเรื่องงงบประมาณสมดุล แต่ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ใช้จ่าย ส่วนปัญหาหนี้ครัวเรือนนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีไกค์ไลน์ขอความร่วมมือสถาบันการเงินช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนการพักชำระหนี้ก็มีอยู่บ้างแต่พักนานจะทำให้เรามีภาระสถาบันกาเงิน เราจึงเน้นปรับโครงสร้างหนี้มากกว่าการพักหนี้ ที่สุดจะเกิดหนี้เสีย”

ขณะที่ในส่วนของปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงานในอนาคตที่จะเพิ่มขึ้น เป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องกลับมาพิจารณาซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนของประเทศ ซึ่งการขาดแคลนแรงงานที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะกรณีที่ประเทศได้เข้าสู่สังคมสูงวัยเร็วกว่าที่คาด และ การไม่กลับเข้าสู่ตลาดแรงงงานหลังเหตุการณ์โควิด ดังนั้น กระทรวงการคลังควรมีนโยบายเรื่องของมาตรการการลดหย่อนภาษีเพื่อเข้ามาช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจ้างงานกลุ่มผู้สูงวัยมากขึ้น

“แม้ว่าที่ผ่านมาการจ้างงานจะปรับตัวดีขึ้น เพราะเรามีมาตรการรักษาระดับการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม เราคงต้องกลับมาพิจารณา เพราะการขาดแคลนแรงงานในอนาคตจะเพิ่มขึ้น เพราะปัจจัยหลายอย่าง เป็นปัญหาใหญ่ ส่วนหนึ่งเพราะสังคมเราก้าวสู่สังคมสูงอายุรวดเร็วกว่าคาด ฉะนั้น มาตรการของรัฐเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่เกษียณการทำงานอายุ 60 ปี ถามว่า เขาจะมีรายได้อยู่หรือไม่ คลังจะมีมาตการต่อในเรื่องมาตรการภาษีอย่างไร”