หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย มีมาตรการให้ธนาคารทุกแห่งยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่างๆบนแอปพลิเคชัน -โมบายแบงก์กิ้ง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ ซึ่งแต่ละธนาคารในตอนนี้ เริ่มประกาศแจ้งลูกค้าเจ้าของบัญชีให้ยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า หากจะทำธุรกรรมด้วยการโอนเงินตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป หรือ ในกรณีที่ต้องการปรับวงเงิน โดยความคืบหน้าในตอนนี้จะมีธนาคารไหน แบงก์ใดบ้างนั้น "ฐานเศรษฐกิจ"รวบรวมข้อมูลมานำเสนอดังต่อไปนี้
ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เมื่อทำธุรกรรมดังต่อไปนี้ผ่านแอป SCB EASY
1. โอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง
2. มูลค่ารวมของธุรกรรมโอนเงินทุก ๆ 200,000 บาท ภายใน 1 วัน
3. ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
กรุณานำบัตรประชาชนไปอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและถ่ายรูปใบหน้าได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนด้วยตนเองบนแอป SCB EASY ก่อนไปสาขาธนาคาร ได้ตามขั้นตอนดังนี้
1.กด"เมนูอื่นๆ"
2.กด"การตั้งค่า"
3.กด "จัดการบริการ NDID"
4.1 หากพบข้อความ "นำบัตรประชาชนไปติดตาอธนาคารไทยพาณิชย์สาขาที่สะดวก" ลูกค้าต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา
4.2 หากไม่พบข้อความดังข้อ 4.1 ลูกค้าไม่ต้องยืนยันตัวตนที่สาขาเนื่องจากธนาคารมีใบหน้าของลูกค้าในระบบแล้ว
ธนาคารออมสิน
ธนาคารออมสิน แจ้งว่า เพื่อยกระดับความปลอดภัย เดือนพฤษภาคมนี้ หากต้องการโอนเงินมากกว่า 50,000 บาท หรือเปลี่ยนแปลงวงเงิน จะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วยการเปรียบเทียบใบหน้าก่อน โดยสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขา และอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ถ่ายภาพสแกนใบหน้าที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ
ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ แจ้งว่า เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยในระบบโมบายแบงก์กิ้ง ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า โดยนำบัตรประชาชนไปอัพเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และถ่ายรูปใบหน้าที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่พฤษภาคม 2566 ในธุรกรรมต่อไปนี้
ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผู้ใช้งานเตรียมพร้อมยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมผ่าน K PLUS โดยจะเริ่ม พฤษภาคม 2566
อนึ่งธนาคารกสิกรไทยได้เก็บใบหน้าของลูกค้าจากการเปิดบัญชี หรือทำธุรกรรมกับธนาคารอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าส่วนใหญ่สามารถทำธุรกรรมผ่าน K PLUS ได้ทันที โดยไม่ต้องลงทะเบียนใบหน้าใหม่
เฉพาะลูกค้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้เท่านั้น ต้องลงทะเบียนใบหน้าใหม่ โดยนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่ตู้ ATM ธนาคารกสิกรไทย หรือติดต่อสาขาที่ท่านสะดวก
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย แจ้งว่าได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัย ยกระดับการใช้งานแอปฯ NEXT และ เป๋าตัง สู่การสแกนใบหน้าที่ปลอมแปลงได้ยากกว่า OTP เพื่อยืนยันตัวตนก่อน โอน เติม จ่าย ทั้งนี้ขอให้ประชาชนนำบัตรประชาชนไปบันทึกข้อมูลยืนยันตัวตนและถ่ายภาพใบหน้า ได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือตู้ ATM กรุงไทย สีเทา
สำหรับการอัพเดตข้อมูลบัตรประชาชนและการสแกนใบหน้า มีข้อดี ดังนี้
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. แจ้งว่า เพื่อการทำธุรกรรมที่ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น ขอให้เจ้าของบัญชีลงทะเบียน “e-KYC การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์” โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ BAAC ทุกสาขา และใช้หลักฐานในการลงทะเบียนได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนและสมาร์ตโฟน
สำหรับการลงทะเบียน e-KYC ด้วยอัตลักษณ์บุคคล เช่น การจดจำใบหน้า ช่วยระบุไอดีที่เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล ทำให้ปลอมแปลงหรือเลียนแบบได้ยาก ลดขั้นตอนการตรวจสอบบุคคล ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างดำเนินการ และควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลได้ ทั้งนี้ข้อดีของระบบดังกล่าวมีดังนี้
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แจ้งลูกค้า KMA krungsri app และ Krungsri Biz Online ที่ยังไม่เคยมีรูปถ่ายกับทางธนาคาร สามารถไปสแกนใบหน้าที่ธนาคาร โดยนำบัตรประชาชนไปติดต่อที่สาขาใกล้บ้าน
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ttb แจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการสแกนใบหน้า เพื่อยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ttb touch ด้วยตนเองทุกครั้งในกรณที่
1.โอนเงินให้บุคคลอื่นหรือธนาคารอื่น ตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป ต่อครั้ง
2.โอนเงินให้บุคคลอื่นหรือธนาคารอื่น ตั้งแต่ 200,000 บาท ขึ้นไป ต่อวัน
3.ปรับเพิ่มวงเงิน
ทั้งนี้ลูกค้าทีทีบีส่วนใหญ่สามารถทำธุรกรรมดังกล่าวได้ตามปกติ โดยสามารถเช็กสถานะว่าต้องไปสแกนใบหน้าที่สาขาหรือไม่ ผ่านแอป ttb touch ตามขั้นตอนนี้
กรณีที่ยังไม่เคยอัปเดตข้อมูลบัตรประชาชน และ/หรือสแกนใบหน้ากับธนาคาร สามารถนำบัตรประชาชนไปติดต่อทีทีบี ทุกสาขา ใกล้บ้านท่าน