คลังเตรียมพักหนี้เอสเอ็มอี ลูกหนี้แบงก์รัฐ-แบงก์พาณิชย์ 1 ปี

20 ก.ย. 2566 | 04:00 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ย. 2566 | 04:23 น.

คลังเตรียมพักหนี้เอสเอ็มอี ค้างชำระหนี้เกิน 90 วัน นาน 1 ปี ทั้งลูกหนี้แบงก์รัฐ-แบงก์พาณิชย์ ฝั่งพักหนี้เกษตรกร ชงบอร์ด ธ.ก.ส. อนุมัติสัปดาห์หน้า

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมมาตรการพักหนี้ดูแลเอสเอ็มอี นาน 1 ปี ทั้งลูกหนี้ที่อยู่ในสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นเอสเอ็มอีที่อยู่ในรหัส 21 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือลูกหนี้ลูกหนี้ที่ค้างชำระหนี้เกินกว่า 90 วัน ซึ่งปัจจุบันมีเอสเอ็มอีทั้งหมด 3 ล้านราย มูลหนี้ 3 แสนล้านบาท 

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เอสเอ็มอีกลุ่มดังกล่าว เป็นลูกหนี้ธนาคารออมสินมากที่สุด ส่วนลูกหนี้ที่เป็นธนาคารพาณิชย์นั้น จะมีการหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทย  เพื่อขอความร่วมมือในการดำเนินมาตรการดังกล่าว ซึ่งเอสเอ็มอีกลุ่มนี้ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่ปกติ หรือเป็นหนี้เสียที่เป็นตั้งแต่โควิด แต่ก่อนหน้านี้เคยเป็นลูกหนี้ที่จ่ายเงินปกติ ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ แต่จากเหตุการณ์โควิดส่งผลให้ไม่สามารถใช้หนี้ได้

"การพิจารณาพักการชำระหนี้ของเอสเอ็มอีนั้น จะมีการกำหนดกรอบของมูลหนี้ที่สามารถเข้าโครงการนี้ได้ มิฉะนั้นภาระการชดเชยจะบายปลายไปมาก  ซึ่งหนี้ของเอสเอ็มอีมีทั้งที่อยู่ในสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และอยู่ในธนาคารพาณิชย์ จึงต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณามากกว่าการพักหนี้ให้กับเกษตรกร"

ส่วนเอสเอ็มอีที่ขณะนี้อยู่ในมาตรการช่วยเหลือของรัฐแล้ว จะไม่ถูกรวมเข้ามาในโครงการพักหนี้ครั้งนี้ของรัฐบาล แต่กระทรวงการคลังจะพิจารณาหาวิธีการให้สามารถเข้าโครงการพักหนี้ในปีถัดๆไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะลงนามแต่งตั้งคณะทำงาน เรื่องการพักหนี้ของเอสเอ็มอี ที่กรรมการประกอบด้วยตัวแทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ธกส. ธนาคารออมสิน สมาคมธนาคารไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีตนเป็นประธานคณะทำงานชุดนี้

ขณะที่โครงการพักการชำระหนี้เกษตรกร 3 ปีนั้น ภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมบอร์ด ธ.ก.ส. เพื่ออนุมัติในรายละเอียด เช่น มูลหนี้ไม่เกินเท่าไหร่ จะสามารถเข้าโครงการพักหนี้ได้ และกระทรวงการคลัง จะเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติ ในการประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 26 ก.ย.นี้

สำหรับการพักกาชำระหนี้ของเกษตรกรในครั้งนี้ จะแตกต่างจากการพักหนี้เกษตรกรในอดีต กล่าวคือ แม้จะเข้าโครงการพักหนี้แล้วก็ตาม แต่เกษตรกรยังสามารถกู้ยืมเงินเพิ่มเติมจา ธ.ก.ส.ได้ เพื่อนำไปประกอบอาชีพ เพื่อให้หลังจากพ้นระยะเวลาการพักหนี้ภพ​แล้ว เกษตรกรจะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง โดยระหว่างการพักหนี้ ธ.ก.ส.ก็จะเปิดโอกาสให้เกษตรกร ที่มีความต้องการชำระหนี้ สามารถชำระหนี้เข้ามาได้ โดยเงินที่มาชำระหนี้จะนำไปตัดส่วนที่เป็นเงินต้น เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้เพื่อให้หลังพ้นระยะเวลาการพักชำระหนี้แล้ว เกษตรกรจะได้มีภาระหนี้ลดลง

นอกจากนั้น ในระหว่างการดำเนินนโยบายพักหนี้เกษตรกร ทางรัฐบาลก็จะดำเนินนโยบายอื่นควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร เช่น นโยบายเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่าตัว โดยรัฐบาลจะไปเจรจาทำ FTA กับประเทศต่างๆเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มยอดการส่งออก ,รวมถึงการให้ SFI ให้สินเชื่อแก่เกษตรกรเพิ่มเติม เพื่อประกอบอาชีพ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังจะมีนโยบายแจกเงินดิจิตอลเข้าไปสนับสนุนให้เกษตรกรมีเงินไปประกอบอาชีพได้เพิ่มเติมด้วย