MTL ตั้งเป้าอันดับหนึ่ง คู่คิดด้านวางแผนชีวิต

29 ม.ค. 2567 | 09:28 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ม.ค. 2567 | 09:28 น.

เมืองไทยประกันชีวิตเปิดแผนปี 67 ชูกลยุทธ์ “Happiness, Your Way” ตั้งเป้าอันดับหนึ่งการเป็นคู่คิดด้านวางแผนชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ เดินหน้าขยายพอร์ตประกันชีวิต ดันเบี้ยรับโต 20%

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยแผนการดำเนินงานปี 2567 ว่า บริษัทตั้งเป้าเป็นอันดับหนึ่งในการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่คุณวางใจ โดยตั้งเป้าการเติบโตของเบี้ยประกันรับใหม่ 20% ใน 3 หลุ่มหลักคือกลุ่มประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ประกันเกษียณอายุ และประกันโรคร้าย

MTL ตั้งเป้าอันดับหนึ่ง คู่คิดด้านวางแผนชีวิต

“ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับคะแนน NPS (Net Promoter Score) สูงถึง 58 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีที่ก่อน หน้าถึง 17 คะแนน ซึ่งบ่งชี้ความผูกพันธ์และความพึงพอใจของลูกค้าผ่านคำถามง่ายๆ ว่า ลูกค้ามีแนวโน้มจะแนะนำแบรนด์ให้กับเพื่อนหรือคนรู้จักมากน้อยเพียงใด ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินงาน เพื่อลูกค้าอย่างครบวงจรของ MTL"นายสาระกล่าว

ดังนั้นปีนี้ บริษัทจึงเดินหน้าสานต่อการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่คุณ วางใจ (No. 1 Most Trusted Partner in Life & Health Planning) และยึดกลยุทธ์ “Happiness, Your Way เพราะความสุขคือทุกอย่าง.... ความสุขสไตล์คุณคือที่สุดของทุกสิ่ง" ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยจะดำเนินงานผ่าน 2 แนวคิดหลัก ได้แก่

  • Personal  เน้นการสร้างสรรค์พัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความเป็นคุณอย่างแท้จริง โดยใช้ภาษาที่ง่ายต่อความเข้าใจ ช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย และส่งมอบความเป็นตัวตนในแบบที่เป็นคุณ อาทิ ความร่วมมือในการขายประกันชีวิตและสุขภาพผ่านความร่วมมือกับ LineBK ที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ ซื้อง่าย จ่ายเบา ผ่าน Line และยังให้ข้อมูลด้วยภาษาและเงื่อนไขที่เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากอีกด้วย หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ของบริษัทฯ ที่ให้บริการลูกค้าอย่าง MTL Online Sales website (online.muangthai.co.th/)  แอปพลิเคชัน  MTL  Click  รวมถึงแอปพลิเคชันใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว
  • Life มุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ทุกช่วงชีวิตของผู้คนทุกกลุ่ม เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการได้อย่างเต็มที่ จึงมีการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกันอย่างครบด้าน ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพเพื่อส่งมอบความคุ้มครองให้กับคุณและคนที่คุณรัก การส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่ดีเพื่อลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย การรักษาอย่างครอบคลุมและตรงจุด และสิทธิประโยชน์สำหรับทุก ๆ ไลฟ์สไตล์

MTL ตั้งเป้าอันดับหนึ่ง คู่คิดด้านวางแผนชีวิต

“เราสามารถส่งมอบความสุขและรอยยิ้มได้ตามแนวทางที่วางไว้ ด้วยการนำ เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาช่วยเติมเต็ม ทั้ง AI, Machine Learning, Automation และ Digital Tools อื่นๆ ในทุกๆ กระบวนการ ทั้งการขาย การพิจารณารับประกัน การพิจารณาสินไหม ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ เพื่อตอบโจทย์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ทางการขายและเจ้าหน้าที่บริการ ทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น”นายสาระกล่าว

นายสาระกล่าวต่อว่า ทิศทางธุรกิจประกันชีวิตปีที่ผ่านมา เริ่มตีกลับเป็นปีแรก หลังจากช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา บริษัทประกันเน้นขายประกันสะสมทรัพย์เป็นหลัก แต่โครงสร้างรูปแบบประกันที่เปลี่ยนไป เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้ในปี 2566 เป็นปีแรกที่อุตสาหกรรมประกันตีกลับมาเป็นขาขึ้น 

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของเมืองไทยประกันชีวิต ปี 2566 มีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาท เติบโต 2% จากปีก่อนที่มีเบี้ยประกันรับรวมที่ 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่ล้อไปกับค่าเฉลี่ยการเติบโตของอุตสาหกรรมประกัน  ซึ่งการที่ยอดเบี้ยประกันภัยไม่ได้เติบโตมาก ไม่ได้หมายถึงจำนวนคนซื้อลดลง แต่เนื่องจากแบบประกันสุขภาพจะเล็กลงจากประกันสะสมทรัพย์ 10 เท่า แม้จำนวนคนซื้อเท่าเดิม แต่เบี้ยประกันจะเล็กลง

MTL ตั้งเป้าอันดับหนึ่ง คู่คิดด้านวางแผนชีวิต

สำหรับปี 2566  มีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ในกลุ่มสินค้าหลัก อาทิ เบี้ยประกันภัยโรคร้ายแรงเติบโต 70% และ เบี้ยประกันภัยบำนาญเติบโต 13% ขณะที่ด้านธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง  รวมถึงมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2566 สูงกว่า 300% ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140%

อย่างไรก็ตาม ทิศทางการดำเนินธุรกิจของ MLT ไม่ได้เน้นการเติบโตด้านรายได้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอีกด้วย โดยมองว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คือการประสานความยั่งยืนให้เป็นหนึ่งเดียวกับการดำเนินธุรกิจในทุกๆ วัน

MTL ตั้งเป้าอันดับหนึ่ง คู่คิดด้านวางแผนชีวิต

ทั้งนี้ธุรกิจหลักของบริษัทฯ เป็นเรื่องของประกันชีวิต จึงทำให้ความยั่งยืนแรกในมิติสังคมเกี่ยวข้องกับประกันชีวิตโดยตรง จึงมุ่งสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกคน (Democratize Insurance) ไม่ว่าจะเป็นการขยาย อายุรับประกันภัยสำหรับแบบประกันภัยหลัก ๆ ถึง 90 ปี พร้อมให้ความคุ้มครองต่อเนื่องสูงสุดถึงอายุ 99 ปี

ด้านมิติสิ่งแวดล้อม เมืองไทยประกันชีวิตได้ลงทุนและเปิดโอกาสให้ลูกค้า  Unit-Linked สามารถลงทุนในสินทรัพย์สีเขียว ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) ตราสาร ESG (ESG Bond) และตราสารส่งเสริมความยั่งยืน พร้อมปลูกฝังวัฒนธรรมสีเขียวให้แก่พนักงานในองค์กร อาทิ การแยกขยะ การลดใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง การลดใช้กระดาษผ่านกระบวนการดิจิทัลต่างๆ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์

ท้ายที่สุด บริษัทฯ ยังยึดมั่นและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐานสากล และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณสูงสุดอย่างเคร่งครัดเป็นสำคัญ