ภาคธุรกิจศัลยกรรมความงามจะเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 2% ระหว่างช่วงปี 2563-2566 แต่โอกาสในปี 66 หลังจากเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวจีนที่ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ จากก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด-19 ทำให้สัดส่วนลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการจาก 20% ลดลงเหลือ 7% ในปีที่ผ่านมา ทำให้คาดว่าในปีนี้ตัวเลขสัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะขยายตัวได้แบบก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นเป็น 20-30%
โดยทิศทางการศัลยกรรมที่ยังได้รับความนิยมมากที่สุด ประกอบไปด้วย การศัลยกรรมจมูก ดึงหน้า และดูดไขมัน ซึ่งสัดส่วนการตลาดในด้านนี้ยังมีมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านบาท และทิศทางยังดูน่าจับตามองหลังเข้าซื้อขายในตลาด mai อย่างเป็นทางการของ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) MASTER หุ้นน้องใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทำให้ราคาเปิดซื้อขายวันแรกดีดตัวกว่า 40%
ย้อนไปดูหลังเปิดขาย IPO ของทาง MASTER พบรายใหญ่เข้าซื้อหุ้นทั้ง สุระ คณิตทวีกุล, นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี และ สุขสันต์ ยศะสินธุ์ สร้างราคายืนเหนือธุรกิจโรงพยาบาลที่เคยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
MASTER มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 รายแรก
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล 118,124,880 หุ้น 49.22%
In Glory Investments Limited. 40,000,000 หุ้น 16.67%
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ 5,030,000 หุ้น 2.10%
นางสาวภาสิตา ลี้สกุล 5,000,120 หุ้น 2.08%
นายวีรชัย มั่นสินธร 4,603,125 หุ้น 1.92%
นายปรีชา ส่งวัฒนา 4,603,125 หุ้น 1.92%
นายสุระ คณิตทวีกุล 3,682,000 หุ้น 1.53%
นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 3,630,000 หุ้น 1.51%
นายมณเฑียร อินทร์น้อย 3,118,750 หุ้น 1.30%
นายไพบูลย์ เสรีวัฒนา 3,100,000 หุ้น 1.29%
ราคาหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) BDMS ราคาอยู่ที่ 30.25 บาท
บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) THG ราคาอยู่ที่ 69.25 บาท
บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) VIBHA ราคาอยู่ที่ 2.68 บาท
บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) RJH ราคาอยู่ที่ 30.25 บาท
บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) EKH ราคาอยู่ที่ 8.90 บาท
บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) MASTER ราคาอยู่ที่ 72.00 บาท ณ เวลา 16.32น.
ถือได้ว่าการก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในการระดมทุนของกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในรอบที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ชื่อเสียงของ โรงพยาบาลศัลยกรรมมาสเตอร์พีซ ดำเนินกิจการมากว่า 10 ปี และลูกค้ามั่นใจในการใช้บริการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขณะที่ MASTER มีกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง และแม้จะมีฐานที่สูงในปี 2565 และจะยังเติบโตสูงถึง 40.1% ในปี 2566 หรือมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 26.9%
นอกจากนี้กลุ่มโรงพยาบาลยังเป็นธุรกิจที่ดึงลูกค้ามาใช้บริการ และรับเงินสดทุกการให้บริการจึงมีสภาพคล่องสูงไม่มีปัญหาหนี้สูญ เห็นได้จากการที่บริษัทไม่มีหนี้สินทางการเงิน จึงเป็นกลุ่มหุ้นที่น่าลงทุน และธุรกิจในกลุ่มนี้ยังเติบโตได้ในปี 2566