21ก.พ.66 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซีย พลัส หรือ ASPS ประเมินความขัดแย้งระหว่างประเทศในปัจจุบันที่มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากกว่าเดิม ดังจะเห็นได้จาก
ล่าสุด "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สร้างเซอร์ไพรส์โดยการเดินทางเยือนยูเครนในช่วงเช้าวันจันทร์ (20 กุมภาพันธ์) นับเป็นการเดินทางเยือนยูเครนครั้งแรกของไบเดน และเป็นช่วงเวลาใกล้ครบรอบ 1 ปีที่รัสเซียเปิดใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน (24 ก.พ. 65)
อ่านเพิ่ม : เบื้องหลัง “ไบเดน” บินเงียบโผล่ยูเครน สุดยอดภารกิจลับ สะท้านเครมลิน
โดยไบเดนเผยว่า สหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือด้านการทหารรอบใหม่แก่ยูเครน มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 18,000 ล้านบาท) ซึ่งรวมถึงเครื่องกระสุนปืนใหญ่ ระบบต่อต้านยานหุ้มเกราะ และเรดาร์ลาดตระเวนทางอากาศ ขณะที่ปลายสัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะประกาศการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อบุคคลระดับสูงและบริษัท ที่พยายามช่วยรัสเซียเรื่องอาวุธ โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการวันนี้
ในส่วนของปูติน ผู้นำรัสเซียจะทำการแถลงนโยบายประจำปี (State Of Nation Address) ต่อรัฐสภารัสเซียในวันนี้ (21 ก.พ.66) ตลาดคาดว่าถ้อยแถลง จะมีความแข็งกร้าวมากขึ้น และมีโอกาสที่สงครามดังกล่าว กำลังกลายเป็นสงครามระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก
ในส่วนของคาบสมุทรเกาหลี กองทัพเกาหลีใต้เผยเมื่อวันเสาร์ (18 ก.พ.) ว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลตกลงบริเวณทะเลญี่ปุ่น 2 ครั้งในรอบ 3 วัน ซึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกในรอบปี ทำให้เกาหลีใต้สั่งคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ โดยผู้ถูกคว่ำบาตรเป็นบุคคล 4 คน และบริษัท 5 แห่งที่พัวพันการเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของ UN และเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
ดีมานด์ใช้พลังงานเพิ่ม หนุนราคาพลังงาน
ในอีกทางหนึ่ง Demand ของการใช้พลังงาน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังทุกประเทศกลับมาเปิดให้ภาคเศรษฐกิจกลับมาเปิดตัวได้สมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะอย่างยิ่ง จึน ซึ่งล่าสุด ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.65% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ที่ 4.30% ตามคาด ซึ่งนับเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 หลังจากธนาคารกลางยังคงนโยบาย
ท่ามกลางสัญญาณการฟื้นตัวของอุปสงค์สินเชื่อภาคธุรกิจ(สวนทางกับหลายประเทศที่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ความหวังด้านอุปสงค์ของจีนยังอยู่ในระดับสูงและเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนราคาน้ำมันดิบในระยะถัดไป
สรุป : แรงกดดันทางด้านอุปทานจากความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น บวกกับแรงหนุนทางอุปสงค์ของการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีน อาจส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงราคากลุ่มพลังงานที่กลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง
ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ในปัจจุบันอยู่ที่ 77 เหรียญฯ/บาร์เรล ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะกลับไประดับ 90-100 เหรียญฯ/บาร์เรลอีกครั้ง หนุนหุ้นพลังงานมีโอกาสกลับมา Outperform ตลาดในช่วงนี้ PTT, PTTEP, PTTGC, TOP, IRPC