ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS กล่าวว่า 2 ปัจจัยหนุนฟันด์โฟลว์ ( Fund Flow) ต่างชาติทยอยไหลกลับเข้าหุ้นไทย คือ
1.ความได้เปรียบจากดอกเบี้ยไทยยังอยู่ในระดับต่ำกว่ายุโรปและสหรัฐฯ มาก หนุนตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจ โดยการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 มี.ค. 2566 คาด กนง.มีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไทยเดือนล่าสุดลดลงอยู่ที่ระดับ 3.79% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ถือเป็นสัญญาณที่ดีและเข้าใกล้กรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มากขึ้น
เมื่อเทียบกับประเทศฝั่งพัฒนาแล้ว ในเดือนนี้มีการขึ้นดอกเบี้ยทั้งสิ้นทั้ง ECB BOE FED มีอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 3.5%, 4.25%, 5% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยไทยมาก ทำให้ Market Earning Yield Gap ของไทย ดีกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งในอีกความหมายหนึ่งคือ Valuation ยังต่ำหนุนให้เม็ดเงินลงทุนมีโอกาสไหลเข้ามาลงทุนมากขึ้น
2.ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง เป็นแรงส่งให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า ทำให้ต่างชาติมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โดย Dollar Index ลดลงราว - 4% จาก 105.6 จุด สู่ 102.2 จุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าเงินประเทศอื่นๆ กลับมาแข็งค่ารวมถึงไทยที่ล่าสุดอยู่ที่ 34.05 บาท/เหรียญฯ
ทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวช่วยหนุนฟันด์โฟลว์ต่างชาติทยอยไหลเข้าหุ้นไทยในระยะถัดไป คาดพยุงดันให้ดัชนีหุ้นไทยกลับมายืนเหนือ 1,600 จุดได้อีกครั้ง
20 หุ้น ต่างชาติซื้อสุทธิมากสุดราคายัง Laggard
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินพบว่าหุ้นที่ต่างชาติซื้อสะสมมากสุดในเดือนมี.ค.66 และราคาหุ้นยัง Laggard หลังดาวน์ไซด์ของราคาเริ่มจำกัด และน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ดีในช่วงถัดไป โดย 20 อันดับแรกในช่วงระหว่างวันที่ 1-22 มี.ค. 2566) ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มการเงิน, กลุ่มรับเหมาฯ, และกลุ่มอื่น ๆ เป็นต้น คาดว่าน่าจะ Outperform ตลาดได้ในช่วงนี้ โดย 20 หุ้นดังกล่าว ได้แก่