ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,908.27 จุด ลดลง 134.51 จุด หรือ -0.41%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,179.83 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ -0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,935.28 จุด ลดลง 82.14 จุด หรือ -0.63%
ตลอดทั้งเดือนพ.ค. ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงทั้งสิ้น 3.48%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.26% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 5.8%
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
นักวิเคราะห์ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ท่ามกลางภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานนั้น เป็นปัจจัยหนุนการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ เนื่องจากพนักงานจะมีอำนาจต่อรองในการขอขึ้นค่าแรงต่อนายจ้าง ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 33.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
สภาคองเกรสสหรัฐจะทำการลงมติร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ซึ่งมีชื่อว่า "พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง" (Fiscal Responsibility Act) ในวันนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 07.30 น.ตามเวลาไทย โดยหากสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ดี การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากที่สมาชิกรีพับลิกันสายอนุรักษ์นิยมมากกว่า 20 รายประกาศว่าพวกเขาจะโหวตคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ พร้อมกับกล่าวหาว่า นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยอมอ่อนข้อให้กับปธน.ไบเดนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการปรับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในงบประมาณ แทนที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ตามที่มีการตกลงกันไว้
ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 1.1% หลังจากบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่า ยอดเงินฝากของธนาคารในสหรัฐร่วงลง 2.5% ในไตรมาสแรกปีนี้
หุ้นเอ็นวิเดีย ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 5.68% หลังจากราคาหุ้นพุ่งทำนิวไฮเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และขึ้นแท่นเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในการซื้อขายระหว่างวันดังกล่าว
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (2 มิ.ย.) สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 253,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย.