เช็คฐานะการเงิน 4 บริษัทลูก STARK ที่ถูกอายัดทรัพย์

08 ก.ค. 2566 | 09:03 น.
อัพเดตล่าสุด :10 ก.ค. 2566 | 02:59 น.

หลัง ก.ล.ต. มีคำสั่ง อายัดทรัพย์ผู้กระทำผิดชุดแรก รวม 4 บริษัทลูกเครือข่าย STARK ที่ยังดำเนินธุรกิจ พบมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 4.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่หนี้สิน 3.96 หมื่นล้าน

จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ก.ล.ต. อาศัยอำนาจตามความมาตรา 267 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดชุดแรก รวม 10 ราย เป็นเวลา 180 วัน

กรณีที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ STARK โดยใน 10 ราย มีบริษัท 5 ราย ประกอบด้วย 1. บริษัท STARK, บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL), บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TCI), บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด และ บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (บ.เอเชีย)

จากการตรวจสอบของฐานเศรษฐกิจ ผ่านระบบ Creden Data พบว่า 4 บริษัทที่โดนอายัดทรัพย์นอกเหนือจาก STARK  มีสินทรัพย์รวมกันกว่า 4.7 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย

บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2511 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 1,900 ล้านบาท วัตถุประสงค์ ผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าที่ทำจากลวดทองแดงและอลูมิเนียม โดยมีเงินสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2564  จำนวน 39,289.44 ล้านบาท หนี้สินรวม 33,778.31 ล้านบาท รายได้รวม 28,074.41 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,570.30 ล้านบาท

บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TCI)
จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2562 ทุนจดทะเบียน 307 ล้านบาท วัตถุประสงค์ประกอบกิจการผลิตสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ลทุกชนิด มีเงินสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2564 จำนวน 5,217.81 ล้านบาท หนี้สินรวม 3,556.82 ล้านบาท รายได้รวม 2,732.77ล้านบาท กำไรสุทธิ 117.47 ล้านบาท

บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2523 ทุนจดทะเบียน 110 ล้านบาท วัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการขุดเจาะในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม รวมทั้งธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจใต้ดินในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยมีเงินสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2564 จำนวน 2,456.54 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,396.24 ล้านบาท รายได้รวม 1,918.96 ล้านบาท กำไรสุทธิ 246.50 ล้านบาท

บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (บ.เอเชีย)
จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2553 ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท วัตถุประสงค์ประกอบกิจการนำเข้า ตัวแทนจำหน่าย ให้เช่า อุปกรณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม โดยมีเงินสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2565 จำนวน 808.90 ล้านบาท หนี้สินรวม 883.92 ล้านบาท รายได้รวม 464.90 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 71.04 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 บริษัทมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 47,772.69 ล้านบาท และมีผลประกอบการในการดำเนินธุรกิจขาดทุนเพียง 1 บริษัทเท่านั้น คือ บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ที่ขาดทุนในปี 2564 อยู่ที่ 71 ล้านบาท ขณะที่อีก 3 บริษัทมีผลประกอบการที่ทำกำไรรวมกันได้กว่า 1,934.27 ล้านบาท

จากนี้คงต้องตามต่อว่าหลักการอายัดทรัพย์สิน จะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจอย่างไร เนื่องจากล่าสุดทาง แหล่งข่าวจาก STARK ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า หลังจาก ก.ล.ต. มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดของบริษัท STARK ชุดแรก คำสั่งดังกล่าวโดยไม่ระบุรายการ และรายบัญชี การดำเนินการในลักษณะนี้โดยทางพฤตินัยบริษัทจะทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้ แม้การดำเนินการปกติ และการจ่ายเงินพนักงาน

ดยตามข้อกฎหมายแล้วยังสามารถถอนได้จริงหรือไม่ ในเมื่อการแจ้งยึดอายัดทรัพย์จะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ และการดำเนินการตามขั้นตอนของการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดจะต้องระบุรายละเอียดให้ชัดเจน ทั้ง ข้อมูลรายการ และรายบัญชีต่าง ๆ ที่ต้องทำการยึดอายัดด้วย