"ภากร" ย้ำ IPO ไทยมีคุณภาพ ชี้ปรับหลักเกณฑ์ เพื่อยกระดับให้สูงขึ้น
"ภากร ปีตธวัชชัย" ยืนยัน IPO ไทยมีคุณภาพเท่าเดิมไม่ได้ลงลด ชี้การปรับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลร่วมกับ สำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อยกระดับให้สูงขึ้นในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า พร้อมให้ข้อมูลนักลงทุนต่อเนื่อง
(7 ส.ค. 66) นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่ ตลท. ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรีมปรับปรุงเงื่อนไข การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันว่า การระดมทุน IPO ปัจจุบันมีคุณภาพตามเดิม
ซึ่งการยกระดับจะช่วยทำให้ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้ามีมาตรฐานที่สูงขึ้น ซึ่งการร่วมพัฒนากฎเกณฑ์ต่างๆ ร่วมกับ สำนักงาน ก.ล.ต. หากมีความชัดเจน จะประกาศให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ยอมรับว่า IPO นั้นมีความเสี่ยงไปตามสถานการณ์ ดังนั้นบริษัทที่ปรึกษา และบริษัทจดทะเบียน จะต้องประเมินสถานการณ์ ทั้งการกำหนดราคา ให้สอดคล้องกับผลประกอบการ และสถานการณ์ในปัจจุบัน
โดยในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมที่จะให้ข้อมูลกับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถนำมาวิเคราะห์ และประกอบการตัดสินใจในการลงทุนได้
สำหรับด้านผู้ประกอบการมีทางเลือกให้ระดมทุนผ่าน 3 ตลาด หากเป็นรายย่อยที่เริ่มทำธุรกิจ เช่น วิสาหกิจขนาดกลาง (SME) หรือวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) สามารถระดมทุนผ่าน ตลาดหลักทรัพย์ LiVe Exchange (ตลาดหลักทรัพย์ ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์)
และเมื่อธุรกิจแข็งแรงขึ้นเติบโตขึ้น ก็สามารถเข้าระดมทุนผ่านตลาด mai และหากมีการขยายกิจการจนเติบโตเต็มที่ ก็สามารถเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ SET ซึ่งทั้งหมดนั้นได้มีการแบ่งสัดส่วนตามขนาดของธุรกิจอยู่แล้วในปัจจุบัน
สำหรับแผนกระตุ้นการซื้อขายให้เพิ่มขึ้นนั้น ยอมรับว่าในเรื่องดังกล่าวนักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนการซื้อขายมากที่สุดใน SET เพราะกองทุนต่างชาติซื้อขาย ลงทุนอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับการลงทุนของนักลงทุนรายย่อย
โดยนักลงทุนรายย่อยในประเทศยังจำนวนเท่าเดิม แต่เริ่มมีสัดส่วนน้อยลง เมื่อเทียบกับการลงทุนโดยรวมในตลาด ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร่งสร้างนักลงทุนกลุ่มใหม่ เพื่อให้มีนักลงทุนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มากขึ้น