ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน หนุน SME-Startup เข้าถึงแหล่งเงิน

02 เม.ย. 2567 | 04:48 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2567 | 04:49 น.

ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน เปิดโอกาส SME – Startup เข้าถึงแหล่งทุน และมีส่วนร่วมพัฒนาด้านความยั่งยืน รวมทั้งยกระดับการเปิดเผยข้อมูลให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการออกและเสนอขายตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน เพื่อรองรับการออกและเสนอขายผ่านช่องทางคราวด์ฟันดิงและการเสนอขายในวงจำกัด สำหรับ SME และ Startup ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านความยั่งยืน รวมทั้งยกระดับการเปิดเผยข้อมูลให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567

ตามที่ ก.ล.ต. มีแนวคิดในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน* เพื่อเปิดโอกาสให้กิจการทุกขนาด รวมทั้งวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) สามารถระดมทุนผ่านตราสารประเภทนี้ได้ ผ่านช่องทางคราวด์ฟันดิง (crowdfunding) และการเสนอขายในวงจำกัด เพื่อส่งเสริมให้ SME และ Startup สามารถเร่งปรับตัวและมีส่วนร่วมกับการพัฒนาธุรกิจในมิติความยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญต่อกลยุทธ์และการประกอบธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงด้านความยั่งยืน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และมีส่วนร่วมในการผลักดันให้ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยได้นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณายกร่างประกาศและเปิดรับฟังความเห็นต่อร่างประกาศไปเมื่อเดือนธันวาคม 2566 นั้น 

สาระสำคัญการปรับหลักเกณฑ์ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน

ก.ล.ต. จึงออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 โดยมีสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

(1) ขยายเกณฑ์การเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพสำหรับบริษัทจำกัด (PP-SME)** ให้รองรับการออกและเสนอขายตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green bond) ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม (social bond) หรือตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (sustainability bond)

(2) ขยายเกณฑ์การเสนอขายหุ้นกู้ผ่าน crowdfunding ให้รองรับการออกและเสนอขายตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนทุกประเภท 
 

ทั้งนี้ ผู้ออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน ยังมีหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลและการรายงานข้อมูลต่อผู้ลงทุนในส่วนที่เกี่ยวกับด้านความยั่งยืน เช่น วัตถุประสงค์การใช้เงินด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม การคัดเลือกโครงการ การรายงานความคืบหน้าโครงการ การกำหนดเป้าหมายของธุรกิจที่สอดรับกับด้านความยั่งยืน และการรายงานผลความคืบหน้าตามเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่กำหนดไว้ เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน ตลอดจนเพิ่มความน่าเชื่อถือในการออกตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน 

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดคู่มือสำหรับการออกและเสนอขายตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน และประกาศที่เกี่ยวข้องได้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.

หมายเหตุ: 

* ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน ประกอบด้วยตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green bond) ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม (social bond) ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (sustainability bond) และตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability-linked bond: SLB)  

** PP-SME หมายถึง การเสนอขายหลักทรัพย์ต่อบุคคลในวงจำกัด (PP) ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทจำกัด