sustainability

แบงก์รัฐ จัดสินเชื่อสีเขียว ชูดอกเบี้ยต่ำ หนุนธุรกิจปรับตัว ลดคาร์บอน

    แบงก์รัฐ ออกสินเชื่อสีเขียว หนุนธุรกิจปรับตัวสู่ความยั่งยืน “ออมสิน” ใช้ ESG Score ปล่อยกู้ธุรกิจ ฝั่ง “EXIM BANK วางเป้าพอร์ตสีเขียวโต 1.25 แสนล้าน ด้าน “ธ.ก.ส.” ลุย BCG Model ปล่อยสินเชื่อทะลุ 4 หมื่นล้าน

หลังจากไทยได้ทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ วางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 30-40% ในปี 2030 และเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Net Zero) ในปี 2065 ภาครัฐได้ใช้กลไกสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนลดการปล่อยคาร์บอน เช่น มาตรการส่งเสริมใช้รถไฟฟ้า และล่าสุด เตรียมใช้กลไกภาคบังคับ ผ่านภาษีคาร์บอน เพื่อให้ธุรกิจปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การปรับธุรกิจสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น มีต้นทุนในการดำเนินการ ฉะนั้น ในด้านแหล่งเงินทุน สถาบันการเงินของรัฐ ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในกลไกสนับสนุนธุรกิจ โดยการให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินกู้ทั่วไป สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการปรับตัว  

ออมสินใช้ ESG Score ปล่อยสินเชื่อธุรกิจ

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า เพื่อเป้าหมายการเดินหน้าสู่ Net Zero ออมสินมีรายการกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่พิจารณาปล่อยสินเชื่อ เช่น ธุรกิจถ่านหิน ขณะเดียวกันจะมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ออมสินได้ทำจัดทำ ESG Score เพื่อนำผลคะแนนมามาประกอบการพิจารณาสินเชื่อเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนธุรกิจปรับเปลี่ยนสู่การปล่อยคาร์บอนต่ำ 

สำหรับการพัฒนาสกอร์ขึ้นมา จะช่วยลูกค้าในระดับ 1-10 หากใครได้คะแนนสูง 8-10 ก็จะลดดอกเบี้ยให้ ถือเป็นข้อกำหนดสำหรับธุรกิจที่ขอสินเชื่อตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ต้องผ่านการประเมินผลคะแนน ESG Score นี้เท่านั้น โดยขณะนี้ออมสินได้มีการปล่อยสินเชื่อผ่าน ESG Score ไปแล้วกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

"การใช้ ESG Score ก็เหมือนเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เขาเข้ามาร่วมทำโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม ตอนนี้การขอสินเชื่อตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ต้องผ่าน Score นี้เท่านั้น ส่วนในปี 68 จะดึงยอดขอสินเชื่อลงมาอยู่ที่ 250 ล้านบาท หากรายใดไม่พร้อมออมสินก็จะเข้าไปช่วย เพื่อให้เข้าถึงสินเชื่อ ซึ่งเป็นการ Engagement อีกรูปแบบหนึ่ง และเป็นการสนับสนุนให้ธุรกิจเกิดการเปลี่ยนแปลง"

EXIM BANK วางเป้าพอร์ตสีเขียวโต 1.25 แสนล้าน

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า EXIM BANK วางเป้าหมายว่าอีก 2 ปีข้างหน้า พอร์ตสินเชื่อสีเขียวของแบงก์จะเติบโตในสัดส่วน 50%ของสินทรัพย์ทั้งหมด โดยขณะนี้สินเชื่อสีเขียวในพอร์ตของธนาคารอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 37%จากเป้าหมายที่วางไว้

“ตัวเลขสินเชื่อสีเขียวในพอร์ตของแบงก์ 7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 37% จากเป้าหมายที่เราวางไว้ ว่าจะผลักดันให้พอร์ตสินเชื่อสีเขียวเติบโตอยู่ที่สัดส่วน 50% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ในอีก 2 ปีข้างหน้า ถือว่ามีความท้าทายมาก ซึ่งเราวางหมุดหมายว่า อีก 2 ปี สินทรัพย์ของแบงก์จะขยายตัวเป็น 2.5 แสนล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อสีเขียวต้องมีสัดส่วน 1.25 แสนล้านบาท”

ขณะเดียวกัน ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา EXIM BANK ได้ระดมทุนผ่านการออกกรีนบอนด์ และบลูบอลด์ รวมกว่า 1.65 หมื่นล้านบาท โดยในวงเงินที่ธนาคารระดมทุนมานั้น ได้นำมาปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการที่ปรับตัวสู่กรีน และเร็วๆ นี้ ธนาคารจะออกสินเชื่อ Green Tourism หรือสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องที่ปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท 

“สินเชื่อ Green Tourism จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการกลุ่มบริการ ท่องเที่ยวที่ปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว ขนาดกลางและขนาดเล็ก ได้รับสินเชื่อ วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 4% โดยธุรกิจที่ปรับตัว เช่น บริการรถทัวร์ หากเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า หากลดการปล่อยคาร์บอนก็จะเข้าข่ายการได้รับสินเชื่อ เป็นต้น”

แบงก์รัฐ จัดสินเชื่อสีเขียว ชูดอกเบี้ยต่ำ หนุนธุรกิจปรับตัว ลดคาร์บอน

ขณะเดียวกัน ในปี 2568 ธนาคารมีเป้าหมายที่จะระดมทุนกรีนบอนด์ และบลูบอนด์อีก 5,000 - 10,000 ล้านบาท รวมทั้งจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสินเชื่อเงินกู้ระยะยาว Sustainability Linked Loan ระยะที่ 2 ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ โดยมีหลักการง่ายๆ คือ เมื่อผู้ประกอบการขนาดเล็กลดการปล่อยคาร์บอน ก็สามารถนำมาลดดอกเบี้ยกับธนาคารได้ เริ่มตั้งแต่ 15 สตางค์ ไปจนถึง 1 สลึง เป็นต้น

ทั้งนี้ การดำเนินการ Sustainability Linked Loan ในระยะแรก เราเน้นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งต้องมีเงินไปจ้างผู้ประกอบการขนาดเล็กในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้ด้วย แต่การดำเนินการในระยะที่ 2 นี้ ธนาคารจะร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อรับรองการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่สีเขียว โดยไม่ได้คิดค่าบริการ

ธ.ก.ส.ปล่อยกู้สินเชื่อ BCG Model ทะลุ 4 หมื่นล้าน

ด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รายงานว่า ธ.ก.ส. เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพชุมชนแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนภายใต้ BCG Model โดยส่งเสริมและสนับสนุนเงินทุนให้กับเกษตรกร บุคคล นิติบุคคล กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร ผ่านสินเชื่อ BCG Model โดยขณะนี้ปล่อยสินเชื่อวงเงินรวมแล้วกว่า 41,474 ล้านบาท

สำหรับสินเชื่อ BCG Model ประกอบด้วย 1.สินเชื่อเพื่อเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy Credit) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้เพิ่มศักยภาพในการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต

2.สินเชื่อเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Credit) เพื่อสนับสนุนการลดปริมาณของเสียให้เท่ากับศูนย์ (Zero waste) โดยนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนการนำวัสดุกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และแปรสภาพกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)

และ 3.สินเชื่อสีเขียว (Green Credit) เพื่อสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์หรือการผลิตอาหารปลอดภัย (Food Safety) ส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานสะอาด รวมถึงการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม