นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 บริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด ( GWTE ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท เอิร์ธ เท็คเอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC) เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ GWTE ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG) เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. สัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง GWTE กับ ETC
• GWTE ได้ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นกับ ETC เพื่อเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50.00 ของบริษัท เก็ท กรีนพาวเวอร์จ ากัด ( GGP ) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 10 โครงการ ที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ.) เป็นระยะเวลา 20 ปี ไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาจำนวน 8 เมกะวัตต์ต่อโครงการ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาทั้งสิ้น จำนวน 80เมกะวัตต์ และมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2569
• ETC ทำการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ จำกัด (SIP) ซึ่งเป็นการเข้ามาถือหุ้นร่วมกับ GWTE และ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียลจำกัด (WTX )เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 2 โครงการ โดยภายหลังจากการเพิ่มทุนดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน SIP ของ GWTE WTX และ ETC อยู่ที่ร้อยละ 34.00, 33.00 และ 33.00 ตามลำดับ
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้ง 2 โครงการภายใต้ SIP มีขนาดก าลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์ซึ่งได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. เป็นระยะเวลา 20 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
2. สัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง GWTE กับ BWG
• GWTE และ BWG ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50.00 ของบริษัท เซอร์คูลาร์แคมป์ จำกัด ( CC) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,600 ล้านบาท และมีกำ หนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2568 โดย CC จะเป็นผู้จัดหาเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม เพื่อส่งให้โรงไฟฟ้าในกลุ่ม GWTE ใช้ในการผลิตไฟฟ้าต่อไป
ทั้งนี้ ภายหลังจากการดำเนินธุรกรรมดังกล่าวข้างต้น กลุ่มบริษัทฯ จะมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. ภายใต้รูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 12 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า ตามสัญญารวม 96 เมกะวัตต์ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2569 และมีโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรมจำนวน 3 โครงการซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2568