นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์ทางการเมืองที่สำคัญในวันนี้ (14 ส.ค.) โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีนายกเศรษฐา
รวมทั้งการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน รับราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแรง จากความกังวลความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,280-1,320 จุด
อีกทั้งประเด็นความเสี่ยงจากความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้นหลังสหรัฐเตรียมกำลังส่งทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมไปยังตะวันออกกลางเพื่อปกป้องอิสราเอล
ล่าสุดทางรัสเซียอพยพประชาชนออกจากอีกภูมิภาคหนึ่งที่อยู่ติดกับยูเครน หลังจากยูเครนเพิ่มกิจกรรมทางทหารใกล้ชายแดนเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ยูเครนทำการโจมตีรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในปี 2565
ขณะเดียวกันทาง WHO ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง (monkeypox) หรือ mpox ที่เพิ่มมากขึ้นในทวีปแอฟริกา และได้มีการส่งสัญญาณว่าอาจประกาศให้การระบาดครั้งนี้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่สำคัญ
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่เข้าคำนวณใน MSCI ซึ่งจะมีผล 2 ก.ย. 2567
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กประเมินแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ว่า ยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ งบดุลเฟด ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธรกิจขนาดเล็ก ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ดัชนีภาคการผลิต ยอดสร้างบ้าน ยอดดุลการค้า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีเงินเฟ้อ
โดยตลาดยังคาดหวังให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยราว 0.50% ในการประชุมเดือน ก.ย. รวมทั้งปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นหลังยูเครนรุกเข้าไปในรัสเซีย เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 2,400-2,500 $/Oz แนะนำเก็งกำไรในกรอบ