ดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 1,350 จุด หลังสภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ซึ่งบล.ทิสโก้มองว่า การที่ดัชนีหุ้นไทยจะขึ้นไปทะลุ 1,400 จุดนั้นไม่ยาก
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บล.ทิสโก้แนะนำให้ติดตามการทำงานของรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางที่ต้องดำเนินการก่อน 30 กันยายน เพื่อให้ทันใช้เงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท
รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ หากทำสำเร็จตามเงื่อนเวลาที่กำหนด คาดว่า จะขับเคลื่อน SET Index ขึ้นไปแกว่งเหนือระดับ 1,400 จุดได้ไม่ยาก
แต่ในทางกลับกัน หากการทำงานของรัฐบาลใหม่เผชิญอุปสรรค มีความล่าช้าเกิดขึ้น เช่น การยื่นร้องในประเด็นต่าง ๆ ที่สุ่มเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเหมือนที่ผ่าน ๆ มา ก็อาจทำให้ SET Index เกิดผันผวนได้หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาเร็วก่อนหน้านี้มาจากความคาดหวังเป็นส่วนใหญ่
นอกจากประเด็นการเมืองแล้ว ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกจากกระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มไหลเข้า โดยเห็นสัญญาณตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และคาดว่าเงินต่างชาติจะไหลเข้าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้จาก 3 ประเด็นคือ
นอกจากนี้ หากผสานกับเม็ดเงินกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) ที่ปรับเงื่อนไขแล้วน่าดึงดูดขึ้น คาดจะเงินไหลเข้าราว 2-3 หมื่นล้านบาท และการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์อีก 1-1.5 แสนล้านบาทในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทยโดยรวม
“จากการประเมินของ บล.ทิสโก้พบว่าทุก ๆ เงินกองทุนที่ไหลเข้าสุทธิ 1 หมื่นล้านบาท จะช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ปรับขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 12-13 จุด”
บล.ทิสโก้แนะนำหาจังหวะสะสมหุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่า จะเป็นเป้าเงินทุนไหลเข้าในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักต่างๆ
ส่วนแนวรับดัชนีหุ้นไทยเดือนนี้อยู่ที่ 1,330-1,340 จุด และแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,390 จุด 1,400 จุด 1,410 จุด และ 1,430 จุด ตามลำดับ