เงินทุนไหลเข้า ก.ย. 15 วัน ทะลุ 3 หมื่นล้าน จับตาไตรมาส 4 พีคสุด

22 ก.ย. 2567 | 08:38 น.
อัพเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2567 | 08:38 น.

เปิดสถิติฟันด์โฟลว์เดือนก.ย.67 ทำนิวไฮสถานะซื้อสุทธิ 3.08 หมื่นล้าน ด้วยระยะเวลาเพียง 15 วันทำการ "วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล" ชี้กระแสเงินทุนต่างชาติส่งสัญญาณไหลกลับเข้าตลาดทุนไทยต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 นี้

สรุปมูลค่าการซื้อขายแบ่งตามกลุ่มผู้ลงทุน ในช่วงระหว่างวันที่ 1-20 กันยายน 2567 พบว่า มีมูลค่ารการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 937,390.74 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • นักลงทุนสถาบัน มีมูลค่าการซื้อที่ 81,249.11 ล้านบาท และมูลค่าการขายที่ 81,605.29 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีสถานะการขายสุทธิอยูที่ระดับ 356.18 ล้านบาท
  • บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ มีมูลค่าการซื้อที่ 65,067.90 ล้านบาท และมูลค้าการขายที่ 62,625.52 ล้านบาท ส่งผลให้ในตอนนี้มีสถานะการซื้อสุทธิอยู่ที่ระดับ 2,442.37 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างประเทศ มีมูลค่าการซื้อที่ 464,828.05 ล้านบาท และมีมูลค่าการขายที่ 433,992.95 ล้านบาท ดังนั้นแล้วในขณะนี้กระแสเงินลงทุนของต่าชาติมีสถานะซื้อสุทธิอยู่ที่ระดับ 30,835.10 ล้านบาท
  • นักลงทุนภายในประเทศ มีมูลค่าการซื้อที่ 326,245.68 ล้านบาท และมีมูลค่าขายที่ 359,166.97 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีสถานะขายสุทธิอยู่ที่ระดับ 32,921.30 ล้านบาท

โดยหากย้อนกลับไปดูสถิติการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน จะพบว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 จนถึงเดือนกันยายน มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้นกว่า 7,859,903.79 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนภายในประเทศ มีสถานะซื้อสุทธิอยู่ที่ 3,695.37 ล้านบาท และ 90,338.43 ล้านบาท

ในขณะที่กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์และนักลงทุนต่างประเทศ ยังคงมีสถานะการขายสุทธิอยูที่ะดับ 120.99 ล้นบาท และ 93,912.80 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากลงลึกในรายละเอียดการซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ พบว่า ในช่วงเดือนมีนาคม 2567 มูลค่าการขายสุทธิทำสถิติสูงที่สุดในปีนี้ มูลค่า 41,314.24 ล้านบาท รองลงมา คือ เดือนมิถุนายน ที่มีมูลค่าขายสุทธิ 34,871.88 ล้านบาท  และ เดือนมกราคม มีมูลค่าการขายสุทธิที่ 30,874.11 ล้านบาท

สำหรับในช่วงเดือนที่นักลงทุนต่างประเทศมีการซื้อกลับและมีสถานะซื้อสุทธิสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ เดือนกันยายน 2567 แม้จะไปได้เพียง 20 วัน ยังไม่ครบเดือนดี หรือมีระยะเวลาเปิดทำการเพียง 15 วันทำการ แต่กลับมีสถานะการซื้อกลับรวมกว่า 30,835.10 ล้านบาท รองลงมา คือ เดือนเมษายน มีมูลค่าการซื้อรวม 3,913.66 ล้านบาท และเดือนกุมภาพันธ์ ที่ 2,862.14 ล้านบาท

จากการไล่ย้อนดูสถิติการซื้อขายของฟันด์โฟลว์ในช่วงเดือนกันยายน 2567 พบว่า เฉพาะวันที่ 6 กันยายน วันเดียวกวาดมูลค่าการซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศไปได้กว่า 10,756.62 ล้านบาท โดยตั้งแต่วันที่ 5-16 กันยายน ฟันด์โฟลวมีการไหลกลับเข้าซื้อลงทุนติดต่อกันถึง 8 วันทำการ

แม้วันที่ 17 กันยายน จะมีสถานะขายสุทธิแต่ก็เป็นเพียงมูลค่า 415.69 ล้านบาท เท่านั้น หลังจากนั้นในวันที่ 18-20 กันยายน กระแสเงินลงทุนต่างประเทศก็กลับมามีสถานะซื้อสุทธิอีกครั้ง

จากข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ได้ติดต่อไปสอบถามข้อมูลกับทาง ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ถึงแนวโน้มการไหลกลับเข้ามาลงทุนของฟันด์โฟลว์ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีทิศทางเป็นอย่างไรบ้าง

ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด

โดยทาง ดร.วิศิษฐ์ ได้ให้คำตอบว่า จากการกลับเข้ามาลงทุนของฟันดโฟลว์ ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นมา นับว่าเป็นการส่งสัญญาณของการกลับเข้ามาลงทุนยังตลาดทุนไทยที่มากขึ้น

ประกอบกับด้วยการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทำให้ผลตอบแทนฝั่งพันธบัตรอาจไม่จูงใจอีกต่อไป สังเกตได้ว่ากระแสเงินลงทุนต่างประเทศได้กระจายตัวลงทุนในตลาดภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ซึ่งไทยเองก็เป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายหลัก

และด้วยแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตามนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ในไตรมาส 4/2567 ก็คาดว่าจะได้เห็นภาพความชัดเจนมากขึ้น ช่วยสร้างความเชื่อมั่นใจการกับเข้ามาลงทุนของต่างประเทศได้ ทำให้ฟัด์โฟลว์มีโอกาสไหลกลับเข้ามาตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง