กูรูส่องตลาดตราสารหนี้ไทยไตรมาสสุดท้ายไปได้ดี ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าต่อ

15 ต.ค. 2567 | 23:00 น.

"ลัพธ์พร ปานะกุล" ประเมินตลาดตราสารหนี้ไทยในไตรมาส 4/67 ยังคงไปได้ดีและเป็นที่ต้องการของนักลงทุน ส่งซิกสัญญาณต่างชาติเข้าซื้อตราสารหนี้ไทยอายุยาวต่อเนื่องเดือนส.ค.-ก.ย. แนะนำทยอยสะสมซื้อหุ้นกู้กลุ่ม Investment Grade

นางสาวลัพธ์พร ปานะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ตลาดรอง บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด เปิดมุมมองต่อภาพรวมการลงทุนของตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงไตรมาส 4/67 ว่า ทางฝ่ายมองว่าตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงที่เหลือของปี 67 นี้ยังคงไปได้ดี และเป็นที่ต้องการของนักลงทุน

โดยเฉพาะตราสารหนี้ไทยที่มีอายุยาว และมีอันดับเครดิตตั้งแต่ Investment grade ขึ้นไป ข้อมูลจากสมาคมตราสารหนี้ไทย หรือ ThaiBMA แสดงให้เห็นว่า สิ้นไตรมาส 3/67 ตลาดตราสารหนี้ไทยมีมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ขึ้นทะเบียนกับ ThaiBMA ณ สิ้นไตรมาส 3/67 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 17 ล้านล้านบาท คิดเป็น 95% ของ GDP

ซึ่งแบ่งออกเป็น ตราสารหนี้ภาครัฐ มูลค่า 12.5 ล้านล้านบาท และตราสารหนี้ภาคเอกชน มูลค่า 4.5 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นไตรมาส 3/67 เป็นการซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทย มูลค่า 59,013 ล้านบาท 

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเงินทุนที่ไหลเข้า ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เมื่อวันที่ 17-18 ก.ย.67 ที่มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.50% ลงมาสู่ระดับ 4.75-5% ตามการคาดการณ์ของตลาด

"จากการเฝ้าสังเกตการณ์จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรไทยจะวิ่งตามสหรัฐฯ หากสหรัฐฯขึ้น เราก็ขึ้น ถ้าเขาลงเราก็ลงตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังปรับตัวลดลงประมาณ 1-11 bps. ตามทิศทางเดียวกับตลาดสหรัฐฯ ทำให้ Yield ลดลงต่อ แต่จากนี้จะเป็นภาพที่ชะลอตัวลงแล้ว สำหรับตลาดตราสารหนี้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ แนวโน้มการปรับตัวลดลงของตลาดอาจมีให้ได้เห็นไม่เยอะนัก เพราะที่ผ่านมาตลาดได้ซึมซับไปพอสมควรแล้ว"

ทั้งนี้ คาดว่าตลาดตราสารหนี้ในช่วงไตรมาส 4/67 นี้ Yield curve ของไทยยังจะมีการเคลื่อนไหวแบบ Side-way down จากการสำรวจของ ThaiBMA ผู้ร่วมตลาดส่วนใหญ่คาดว่ามีโอกาสที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1 ครั้งในปี 67 นี้ ซึ่งอาจเป็นรอบเดือนธ.ค. ที่เป็นการประชุมครั้งใหญ่สุดท้ายของปี

โดยในเดือนส.ค.67 ที่ผ่านมานี้ เริ่มเห็น Flow การเข้าซื้อหุ้นกู้ระยะยาวมากขึ้น โดยเฉพาะ Flow ต่างชาติที่เข้ามาซื้อตราสารหนี้อายุยาวในตลาดไทย มูลค่าเกือบ 48,000 ล้านบาท และในเดือนก.ย. ที่มูลค่ากว่า 11,907 ล้านบาท โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังถือว่าตราสารหนี้ในตลาดเป็นทางเลือกที่มั่นคงและปลอดภัย

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในช่วงนี้ เพิ่มดูเรชั่น (Duration) การลงทุนในตราสารหนี้ให้ยาวขึ้น เช่น 5-10 ปี โดยดูเรชั่น คือ อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าปัจจุบันของกระแสดอกเบี้ยรับที่จะได้ในอนาคต ซึ่งนักลงทุนจะได้ประโยชน์จากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

เนื่องจากผลตอบแทนในตลาดปรับตัวลดลง หรือกล่าวได้ว่ามีโอกาสขายทำกำไรได้ในอนาคต ดังนั้น แนะนำทยอยสะสมซื้อหุ้นกู้กลุ่ม Investment Grade โดยไม่ว่าเป็นการลงทุนผ่านตลาดแรก หรือตลาดรอง หรือลงทุนผ่านกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ