รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ชาวแคลิฟอร์เนีย ซึ่งฉีดวัคซีนไปแล้ว 52% ติดเชื้อไวรัสป่วยเป็นโควิดน้อยกว่าคนไม่ฉีดถึง 83 เท่า นอนโรงพยาบาลน้อยกว่า 142 เท่า และเสียชีวิตน้อยกว่าถึง 462 เท่า
สถานการณ์โควิดระบาดทั่วโลก ซึ่งทำให้มีมีผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 200 ล้านคน และเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 4 ล้านคน นับเป็นประวัติศาสตร์ของโรคระบาดที่รุนแรงมากในรอบ 100 ปีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ได้เร่งวิจัยพัฒนาจนได้วัคซีนขึ้นมามากกว่า 10 ชนิด ที่แม้จะยังวิจัยพัฒนาไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่ก็เพียงพอที่จะเกิดความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิผลในการป้องกันโรค
จึงได้ประกาศให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (EUA) ได้ในหลากหลาย ประเทศทั่วโลก ในประเทศที่ยังขาดแคลนและหาวัคซีนฉีดได้น้อย ก็จะมีปัญหาเรื่องอยากได้วัคซีนมาฉีดโดยเร็ว
แต่ในขณะเดียวกัน บางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีวัคซีนที่ได้รับการยอมรับในเรื่องประสิทธิผลสูงถึงสามชนิดที่ฉีดกันได้แก่
Pfizer
Moderna
Johnson& Johnson
หลังเร่งฉีดวัคซีนไปแล้ว 50% สำหรับสองเข็ม กลับปรากฏว่า มีบางส่วนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน โดยอ้างว่า ถึงแม้จะฉีดวัคซีนไปสองเข็ม ก็ยังติดเชื้อได้ที่เรียกว่า Breakthrough infection
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศหลักในการเก็บสะสมข้อมูลสถิติ และทำวิจัย จึงได้เร่งเก็บข้อมูล
ขณะนี้ KFF ( Kaiser Family Foundation) ได้เก็บรวบรวมข้อมูลใน 24 มลรัฐ และพบว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
คือผู้ที่ฉีดวัคซีน จะมีความปลอดภัยมากกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีน ในสามมิติด้วยกันคือ
เรื่องการติดเชื้อ (Infection)
เรื่องการป่วยหนักต้องนอนโรงพยาบาล (Hospitalization)
และเรื่องการเสียชีวิต (Death)
ยกตัวอย่างในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 52% ได้มีการเก็บตัวเลขผู้ติดเชื้อในช่วง 31 ธันวาคม 2563 ถึง 21 กรกฎาคม 2564 พบว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ติดเชื้อน้อยกว่าผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน 83 เท่า ป่วยหนักต้องนอนโรงพยาบาล น้อยกว่า 142 เท่า
และเสียชีวิตน้อยกว่ามากถึง 462 เท่า
สถิติในอีก 23 มลรัฐที่เก็บมาก็เป็นไปทำนองเดียวกัน
จึงทำให้ทาง CDC และผู้ที่เกี่ยวข้องในสหรัฐอเมริกาต้องออกมาย้ำเตือนอีกครั้งว่า คนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงสูงมากที่จะติดเชื้อ ที่จะป่วยหนัก และที่จะเสียชีวิต จึงขอให้เร่งมารับวัคซีน
เพราะในสหรัฐอเมริกา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ไม่มีวัคซีนให้ฉีด แต่ประสบปัญหาเรื่องประชาชนไม่ยอมมาฉีดวัคซีนมากกว่า
เนื่องจากมีทัศนคติของคนอีกจำนวนมาก ที่ไม่เห็นประโยชน์ของการฉีดวัคซีน หรืออาจจะวิตกกังวลเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนก็เป็นได้
สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ในประทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลการรายงานจากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลสถิติการฉีดระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-11 ส.ค. 64 พบว่า มีการฉีดสะสมแล้ว 22,288,819 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 17,068,105 ราย ฉีดครอบ 2 เข็ม จำนวน 4,826,641 ราย และฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 394,073 ราย