นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว @Thira Woratanarat(ป๊ามี้คีน) ย้ำเตือนต่อเนื่อง และขอยังไม่ให้เปิดคลายล็อก 1 ก.ย. 2564 ด้วยเกรงโควิด -19 แพร่ระบาดหนักขึ้น โดยล่าสุดวันนี้ (28 สิงหาคม 2564) ได้โพสต์ถึงสถานการณ์โควิด -19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ตัวเลขทะลุ 216 ล้านไปแล้ว ขณะที่ประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ตัวเลขที่รายงานของทางการ 18,702 คน สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก แต่หากรวมจำนวนที่ตรวจด้วย ATK อีก 5,066 คน จะสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก
ขณะที่ ภูเก็ต ซึ่งมีการเปิด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 207 คน และกำลังไต่ระดับขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว โดย นพ.ธีระ ย้ำว่า ต้องไม่ลืมว่านี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่หลายฝ่ายพยายามวางระบบลดความเสี่ยงไว้ล่วงหน้าแล้ว
ส่วนสถานการณ์โลก ตัวเลขวันที่ 27 สิงหาคม 2564 ทั่วโลกติดเพิ่ม 691,071 คน รวมแล้วตอนนี้ 216,143,518 คน ตายเพิ่มอีก 9,717 คน ยอดตายรวม 4,497,495 คน 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร อิหร่าน และบราซิล
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 173,819 คน รวม 39,523,850 คน ตายเพิ่ม 1,232 คน ยอดเสียชีวิตรวม 653,315 คน อัตราตาย 1.7%
อินเดีย ติดเพิ่ม 46,805 คน รวม 32,649,130 คน ตายเพิ่ม 514 คน ยอดเสียชีวิตรวม 437,403 คน อัตราตาย 1.3%
บราซิล ติดเพิ่ม 27,345 คน รวม 20,703,906 คน ตายเพิ่ม 721 คน ยอดเสียชีวิตรวม 578,326 คน อัตราตาย 2.8%
รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,509 คน รวม 6,844,049 คน ตายเพิ่ม 798 คน ยอดเสียชีวิตรวม 180,041 คน อัตราตาย 2.6%
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 18,249 คน ยอดรวม 6,711,268 คน ตายเพิ่ม 95 คน ยอดเสียชีวิตรวม 114,083 คน อัตราตาย 1.7%
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึง 89.57% ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน
แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง
เวียดนามติดเพิ่มเกินหมื่นเหมือนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น
ส่วนเมียนมาร์ และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ไต้หวันติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
นพ.ธีระ ได้โพสต์ถึงเรื่อง "กล่องทราย" หรือ กล่องทรายเทเลทับบี้ส์ ที่เคยบอกไว้แล้วว่า จะเริ่มสังเกตเห็นผลของกล่องทรายชัดเจนตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ล่าสุด ภูเก็ตติดเพิ่มอีก 207 คน และกำลังไต่ระดับขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ตรงนี้คือ หลักฐานตอกย้ำถึงสัจธรรมว่า ตราบใดที่มีการระบาดภายในประเทศยังรุนแรง การเปิดให้มีกิจกรรม กิจการ ค้าขาย ท่องเที่ยว ย่อมทำให้เกิดการระบาดมากขึ้นแน่นอน และหากคุมไม่อยู่ จะเปลี่ยนภูมิทัศน์การระบาดของพื้นที่นั้นไปอย่างถาวร ดังที่เห็นในพื้นที่โรงงานที่เคยมีการระบาดหนักมาก่อน แต่ไม่ตัดวงจรการระบาดในขณะนั้น จนทำให้เห็นผลลัพธ์การระบาดหนักและต่อเนื่อง
สำหรับ "มาตรการปลดล็อคตั้งแต่ 1 กันยายน 2564" นพ.ธีระ กล่าวเตือนไว้ล่วงหน้าว่า ยังไม่เห็นที่ใดที่มีการระบาดรุนแรง เป็นหมื่นๆ ต่อวัน กระจายไปทั่ว โดยยังคุมหรือตัดวงจรการระบาดไม่ได้ แล้วมีการปลดล็อคมาตรการควบคุม โดยเมื่อพิจารณาตามหลักวิชาการแพทย์ จะมีโอกาสเกิดการระบาดหนักหน่วงตามมา จะช้าจะเร็วก็รอดูกัน
อเมริกา ประกาศให้นั่งกินในร้าน จากนั้นมีจำนวนติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นใน 41-100 วัน และจำนวนตายสูงขึ้นใน 61-100 วัน แต่ของไทยเรา ปลดล็อคหลายเรื่องพร้อมกัน ทั้งร้านอาหาร สถานศึกษา ร้านนวด ห้าง สวนสาธารณะ ฯลฯ ย่อมมีโอกาสเกิดเร็วขึ้นกว่่าเค้าได้ ดังนั้นจึงต้องช่วยกันระมัดระวัง ป้องกันตัวให้ดี
"หลักในการป้องกันตัวของประชาชน และเจ้าของกิจการ"
พิจารณาให้ดีว่ากิจการ กิจกรรมที่เรากำลังทำอยู่นั้น มีลักษณะต่อไปนี้หรือไม่ หากมี ก็จงตระหนักว่าเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อได้
หากจะลดความเสี่ยงติดเชื้อแพร่เชื้อให้แก่กัน ก็คงต้องหาวิธีปรับให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่ตัวท่านเองจะทำได้ และหากรู้ตัวว่าเสี่ยง ไม่ว่าจะในฐานะผู้ให้บริการ หรือผู้รับบริการ ก็ควรทำการตรวจคัดกรองโรคเป็นระยะ เพื่อตรวจพบได้เร็วและไปรับการดูแลรักษาได้ทัน ไม่แพร่เชื้อต่อไปวงกว้าง
โควิด...ติดไม่ใช่แค่คุณ ติดง่าย ป่วยได้ ตายได้
ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังติดได้ และเป็นคนแพร่เชื้อไปยังคนใกล้ชิดในบ้านหรือคนอื่นในสังคมได้ แต่โอกาสป่วยและตายจะลดลง