19 กันยายน 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยความคืบหน้าของศูนย์ปฏิบัติการบริหารภาวะวิกฤติโควิด-19 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ดำเนินการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนและความยากลำบาก จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ครอบคลุมทั่วทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ คนเร่ร่อน ไร้บ้าน และผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดเตียงและประสบปัญหาทางสังคมทั่วประเทศแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. - 30 ส.ค. 64 รวมจำนวน 66,048 ราย แบ่งเป็น ในพื้นที่ กทม. 8,670 ราย ส่วนภูมิภาค 57,378 ราย ดังนี้
ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครยังเดินหน้าฉีดวัคซีนเชิงรุกด้วยหน่วยบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่กรุงเทพมหานคร (BKK Mobile Vaccination Unit : BMV) ตั้งแต่ 10 ก.ย. 64 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งในชุมชน และพื้นที่บริเวณรอบกรุงเทพมหานคร
มุ่งเป้ากลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ คนพิการ รวมถึงคนไร้บ้าน ที่ได้ร่วมสำรวจกับเครือข่าย มีประมาณ 1,200-1,500 คน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19
นอกจากนี้ล่าสุดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด – 19 "ซิโนฟาร์ม" จากสภากาชาดไทย จำนวน 100,000 โด๊ส โดยจะร่วมกับ สำนักอนามัย และกรุงเทพมหานคร จัดตั้งจุดให้บริการฉีดวัคซีนในชุมชน
รวมถึงจัดชุดบริการเคลื่อนที่สำหรับกลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นการดำเนินการเชิงรุก ตามความมุ่งหวังของรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการดูแลกลุ่มเปราะ กลุ่มคนตกหล่น ให้เข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว
ทั้งนี้ หากประชาชนกลุ่มเปราะบางที่กำลังประสบปัญหาทางสังคมและได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของโรคโควิด-19 สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่