การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มเด็กในประเทศไทยนั้น ปัจจุบันมีการอนุมัติให้ใช้ไฟเวอร์ฉีดให้กับเด็กที่มีอายุ 5-11 โดยเริ่มฉีดไปแล้วเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และรอการอนุมัติฉีดซิโนแวคให้กับเด็ก 3-17 ปี แต่ประเด็นที่นำคัญไปมากกว่านั้นก็คือ ความั่นใจของผู้ปกครองในการพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ
ล่าสุด ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความว่า
วัคซีนโควิด-19 ในเด็ก
โรคทุกโรคที่ป้องกันได้ ควรได้รับการป้องกัน เด็กไม่มีภาระโรคโควิด-19 (Covid-19) อาการน้อยมาก จะไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ ยกเว้นเด็กที่มีโรคอื่นร่วมด้วย ภูมิต้านทานต่ำ เมื่อเป็นโรคจะรุนแรง
เด็กเมื่อติดเชื้อไม่รุนแรง จะนำเชื้อไปสู่บุคคลในครอบครัว ทำให้เกิดการระบาดได้
ควรได้รับเป็นกลุ่มสุดท้ายของครอบครัว ทุกคนในบ้านต้องได้รับวัคซีนให้ครบก่อน (ครบหมายถึงกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย) แล้วจึงให้ความสำคัญมาที่เด็ก เมื่อมีวัคซีนสำหรับเด็กให้ใช้แล้ว
วัคซีนใช้ในเด็ก ขณะนี้ทั่วโลกมีใช้อยู่ 2 ชนิดคือ mRNA (Pfizer) และเชื้อตาย (Sinovac, Sinopharm) สำหรับประเทศไทย ขณะนี้ อ.ย. (Thai FDA) ได้ขึ้นทะเบียนให้ใช้เฉพาะ Pfizer ในเด็กตั้งแต่ 5 ขวบ ขึ้นไป
ส่วนเชื้อตายกำลังรอขึ้นทะเบียนอยู่ ไม่ทราบว่าจะได้เมื่อไร แต่เชื่อว่าไม่นาน เพราะขณะนี้มีการให้ในเด็กหลายร้อยล้านโดส ให้ในเด็กตั้งแต่ 3 ขวบปีขึ้นไป ในจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (มาเลเซีย อินโดนีเซีย เขมร etc) ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา
ระยะห่างของวัคซีนเข็ม 1 และ 2 ยิ่งห่างยิ่งดี ภูมิต้านจะสูงกว่าถ้าให้ห่าง ถ้าห่างเกินไปกลัวว่าจะติดโรคเสียก่อน ถ้าโรคนั้นกำลังระบาดหนัก โดยทั่วไประยะห่างเข็ม 1 และ 2 ให้ได้ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ จนถึง 12 สัปดาห์ และที่เหมาะสำหรับไทย เข็ม 1 และ 2 จึงเป็น 8 สัปดาห์ แต่สามารถยืดหยุ่นได้ ถ้าติดธุระหรือไม่พร้อมให้ยืดออกไปได้
ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลในเด็ก และวัคซีนประเทศไทยขณะนี้ อ.ย. ก็ยังให้เพียงชนิดเดียว ในอนาคตถ้ามีข้อมูลเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ก็มีความเป็นไปได้
ขณะนี้เด็กเล็กเพิ่งจะเริ่มเข็มที่ 1 ส่วนในเด็กโตก็ได้รับ Pfizer ไปแล้ว 2 เข็ม วัคซีน เข็ม 3 ควรกระตุ้น ที่ 6 เดือน ยกเว้นในอนาคต ถ้ามีเชื้อตาย ฉีด 2 เข็มแล้ว เข็ม 3 ก็สามารถกระตุ้นด้วย mRNA ได้ หลัง 1-3 เดือน ภูมิต้านทานจะกระตุ้นได้สูงมาก (ข้อมูลในผู้ใหญ่)
การฉีดวัคซีน ไม่มีการบังคับ เป็นการฉีดด้วยความสมัครใจ
การตัดสินใจอยู่ที่ผู้ปกครอง โดยได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมาแล้ว