เปิดผลวิจัยวัคซีนเข็มกระตุ้น โมเดอร์นา ยับยั้งโอมิครอนได้

04 ก.พ. 2565 | 02:32 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.พ. 2565 | 09:36 น.

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดผลการวิจัยพบวัคซีนโควิด โมเดอร์นา เข็มกระตุ้น ทั้งขนาด 50 และ 100 ไมโครกรัมยับยั้งโอมิครอนได้

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เผยแพร่บทความเกี่ยวกับผลการวิจัยวัคซีนโมเดอร์นา โดยระบุว่า วัคซีนเข็มกระตุ้น ทั้งขนาด 50 และ 100 ไมโครกรัมยับยั้งโอมิครอนได้ แม้หลังผ่านไป 6 เดือน พร้อมเริ่มการศึกษาทางคลินิกระยะที่ 2 ของวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นสูตรใหม่ mRNA-1273.529 ที่มีความจำเพาะต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

 

สำหรับบทความดังกล่าวเผยว่า โมเดอร์นาเริ่มการศึกษาทางคลินิกระยะที่ 2 ของวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นสูตรใหม่ที่มีความจำเพาะต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในอาสาสมัครคนแรก

 

โมเดอร์นาได้ประกาศว่าอาสาสมัครคนแรกในการศึกษาทางคลินิกระยะที่ 2 ของวัคซีนโมเดอร์น่าเข็มกระตุ้นที่มีความจำเพาะต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (mRNA-1273.529) ได้รับการฉีดวัคซีนสูตรใหม่นี้แล้ว การศึกษานี้จะประเมินประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน, ความปลอดภัยและปฏิกิริยาการตอบสนองต่อวัคซีนโควิด-19 สูตร mRNA-1273.529 เมื่อใช้เป็นเข็มกระตุ้นในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
 

โดยแบ่งกลุ่มการทดสอบเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีน mRNA-1273 เข็มหลักครบ 2 เข็มมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน ส่วนกลุ่มที่สองเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีน mRNA-1273 เข็มหลัก 2 เข็ม และได้รับ mRNA-1273 เข็มกระตุ้น ขนาด 50 ไมโครกรัม มาแล้วอย่างน้อย 3 เดือน  

 

โดยอาสาสมัครทั้งสองกลุ่มจะได้รับวัคซีนสูตรใหม่ mRNA-1273.529 ที่จำเพาะเจาะจงต่อโอมิครอน เป็นเข็มกระตุ้นหนึ่งครั้ง ทางโมเดอร์นาคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 300 คนในแต่ละกลุ่ม จากศูนย์วิจัยมากถึง 24 แห่งในสหรัฐอเมริกา

 

นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร NEJM เกี่ยวกับประสิทธิภาพและความทนทานของภูมิคุ้มกันในการยับยั้งเชื้อโอมิครอนเมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน ของวัคซีน mRNA-1273 เข็มกระตุ้น ขนาด 50 ไมโครกรัม จากอาสาสมัครจำนวน 20 ราย พบว่า ก่อนการกระตุ้น พบเพียง 55% เท่านั้น ที่ยังคงมีภูมิคุ้มกัน ต่อโอมิครอน 

 

แต่หลังจากได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA-1273 ขนาด 50 ไมโครกรัม ที่ 6 เดือน พบว่า 100% ยังคงมีการตรวจพบภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน แม้ว่าระดับภูมิคุ้มกันลดลง 6.3 เท่าจากระดับที่สูงที่สุดหลังเข็มกระตุ้น และเป็นที่น่าสังเกตว่า การลดลงของระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโอมิครอนจะลดลงรวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม
 

นอกจากนี้ ผลการทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อโอมิครอนของวัคซีนสูตรอื่นๆ ในการใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น ได้แก่ วัคซีนสูตร mRNA-1273 ขนาด 50 และ 100 ไมโครกรัม, วัคซีนสูตร mRNA-1273.211 (สายพันธุ์ดั้งเดิม+เบต้า) ขนาด 50 และ 100 ไมโครกรัม และ วัคซีนสูตร mRNA-1273.213 (สายพันธุ์เบต้า+เดลต้า) ขนาด 100 ไมโครกรัม 

 

พบว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นทั้งสามสูตรที่ขนาด 100 ไมโครกรัม มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อโอไมครอนที่คล้ายคลึงกัน โดยระดับของภูมิคุ้มกันมีค่าสูงกว่าวัคซีนเข็มกระตุ้น mRNA-1273 ขนาด 50 ไมโครกรัม ประมาณ 2.5-2.6 เท่า

 

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดผลการวิจัยพบวัคซีนโควิด โมเดอร์นา

Stéphane Bancel ซึ่งดำรงตำแหน่ง Chief Executive Officer ของโมเดอร์น่าได้กล่าวว่า“เรามีความมั่นใจมากขึ้นที่พบว่าภูมิคุ้มกันยับยั้งเชื้อโอมิครอนจากวัคซีน mRNA-1273 เข็มกระตุ้น ขนาด 50 ไมโครกรัม ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในปัจจุบัน ยังคงมีอยู่แม้เวลาผ่านไป 6 เดือน อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถในการหลบหนีภูมิคุ้มกันของเชื้อโอมิครอน ซึ่งอาจจะทำให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นในระยะยาว ทางเราจึงเร่งพัฒนาวัคซีนเข็มกระตุ้นที่มีความจำเพาะต่อเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน”