วัคซีนต้านโควิด19 ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการการแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) และช่วยลดอาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไม่ให้รุนแรง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ระบาดอย่างมาก
ร.ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
เทียบประสิทธิภาพของ Pfizer/Biontech, Moderna, Sinopharm, และ Sinovac ในสิงคโปร์
Premikha M และคณะ จากสิงคโปร์ เปรียบเทียบอัตราส่วนของอัตราอุบัติการณ์การติดเชื้อโรคโควิด-19 และการป่วยรุนแรง (incidence rate ratio)
ในประชากรราว 2.7 ล้านคน ที่ได้รับวัคซีนทั้ง 4 ชนิด ครบ 2 เข็มไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และได้รับเข็มสองไปไม่เกิน 120 วัน
แล้วประเมินดูว่ามีอัตราการเกิดการติดเชื้อ และป่วยรุนแรงมากน้อยเพียงใด ในช่วง 1 ตุลาคมถึง 21 พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้ในกลุ่มประชากรสิงคโปร์ที่ศึกษานั้น ส่วนใหญ่ฉีด Pfizer/Biontech ราว 2,000,000 คน, Moderna ราว 600,000 คน, Sinovac/Coronavac ราว 60,000 คน, Sinopharm ราว 20,000 คน
ผลการศึกษาพบว่า mRNA vaccines (Pfizer/Biontech, Moderna) มีอุบัติการณ์ติดเชื้อน้อยกว่าวัคซีนเชื้อตาย (Sinopharm, Sinovac/Coronavac) อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนอุบัติการณ์ของการป่วยรุนแรงนั้นพบว่า กลุ่มที่ได้รับวัคซีน Sinovac/Coronavac มีอัตราการป่วยรุนแรงสูงกว่าวัคซีน Pfizer/Biontech 4.59 เท่า (ช่วงความเชื่อมั่นตั้งแต่ 3.25-6.48 เท่า)
ในขณะที่ Sinopharm มีอัตราการป่วยรุนแรงไม่แตกต่างจาก Pfizer/Biontech อย่างมีนัยสำคัญ
การศึกษาในสิงคโปร์นั้น ชี้ให้เห็นว่า mRNA vaccines ดูจะมีประสิทธิภาพดีกว่าวัคซีนเชื้อตาย ทั้งในด้านการป้องกันการติดเชื้อและการป้องกันการป่วยรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ต้องเน้นย้ำว่า แม้ฉีดวัคซีนไปแล้ว ก็ยังสามารถติดเชื้อได้ ป่วยได้ ตายได้
และหากติดเชื้อ ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะผิดปกติระยะยาว หรือ Long COVID ที่จะบั่นทอนสมรรถนะการใช้ชีวิตประจำวัน และการทำงาน
รวมถึงเป็นภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม
หัวใจสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตท่ามกลางการระบาดคือ การใส่หน้ากากเสมอ เพราะเป็นปราการด่านสุดท้ายที่จะป้องกันตนเอง
และจำเป็นต้องทำควบคู่ไปกับการเว้นระยะห่างจากคนอื่น เลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงสถานที่เสี่ยง
และเลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น
สถานการณ์ระบาดของไทย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก
ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 18.74% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
BA.2.2 ในฮ่องกง
Mesfin Y และคณะจากฮ่องกง เผยแพร่ผลการศึกษาเกี่ยวกับการระบาดของ Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
พบว่า BA.2.2 ทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตพอๆ กับสายพันธุ์ดั้งเดิมในระลอกแรกของโควิด-19 หากไม่ได้ฉีดวัคซีน