"ตับอักเสบเฉียบพลันในเด็ก" อันตรายแค่ไหน อาการเป็นอย่างไร อ่านด่วนเลย

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความว่า

 

ตับอักเสบในเด็กแบบเฉียบพลัน ที่พบมากกว่า  20 ประเทศ 

 

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีการรายงานการพบตับอักเสบแบบเฉียบพลันในเด็ก เริ่มจาก อังกฤษ สหรัฐอเมริกา

 

และพบมากกว่า  20 ประเทศ องค์การอนามัยโลก รายงาน  348 ราย (11 พค 2565) โรคค่อนข้างรุนแรง มีคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย 

 

และตามมาด้วยตัวเหลือง ตาเหลือง การอักเสบของตับที่รุนแรงถึงตับวาย  

 

และมีเสียชีวิต มีหลายรายได้รับการเปลี่ยนตับ โรคนี้ไม่ทราบสาเหตุ อาจมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส Adenovirus 41  

 

ในปัจจุบันชนิดรุนแรงยังไม่มีรายงานในประเทศไทย ศูนย์รับปรึกษาโรคตับอยู่ด้วย ยังไม่ได้รับรายงาน 

ในรายตับอักเสบรุนแรงในเด็ก จะตรวจหาไวรัสัตับอักเสบที่พบบ่อยก่อน ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ  A, B, C 

 

และ E ถ้าไม่พบจะตรวจหา Herpes group  ไข้เลือดออก  Parvo B19 ทางศูนย์สามารถตรวจ  adenovirus  ได้แจกแจงสายพันธุ์ในส่วน Hexon ยีน เพื่อแยกสายพันธุ์ 

 

ถ้ามีผู้ป่วยสงสัยอาการดังกล่าวและต้องการตรวจเพิ่มเติม  ขอให้ส่งเลือด (ตรวจจาก serum)  

 

ป้ายคอหรือหลังโพรงจมูก (เช่นเดียวกับโควิด) และอุจจาระ ทางศูนย์ยินดีที่จะทำการตรวจให้  

 

 

ในคืนนี้ผมจะมีการประชุมร่วมกับหลายประเทศ ในการประชุมเรื่องนี้ในสมาคม International Pediatric Association (IPA)

 

สำหรับโรคตับอักเสบแบบเฉียบพลันนั้น

 

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 เม.ย. โดยมีรายงานการเสียชีวิตของเด็กอย่างน้อย 1 ราย หลังจากพบว่ามี "เด็กป่วยเป็นโรคตับอักเสบเฉียบพลัน" โดยไม่ทราบสาเหตุอย่างน้อย 169 ราย ใน 12 ประเทศ

 

ด้าน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า WHO ได้ออกตัวเลขดังกล่าวขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกสอบสวนกรณีที่มีเด็กเล็กเป็นโรคตับอักเสบชนิดรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างน่าสงสัย

WHO กล่าวว่า ณ วันที่ 21 เม.ย. มีรายงานเด็กป่วย "ตับอักเสบเฉียบพลัน" ที่ไม่ทราบสาเหตุใน

 

• สหราชอาณาจักร
• สหรัฐ
• สเปน
• อิสราเอล
• เดนมาร์ก
• ไอร์แลนด์
• เนเธอร์แลนด์
• อิตาลี
• นอร์เวย์
• ฝรั่งเศส
• โรมาเนีย
• เบลเยียม