นายอัจฉริยะ วัฒนาพร ตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบจากสมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ 5 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมออนไลน์กับคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจที่มี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นประธาน เพื่อร้องเรียนความเดือดร้อนและผลกระทบจากร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบฯ พ.ศ....ที่เสนอโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ว่า
ชาวไร่ยาสูบ 30,000 ครอบครัว ในพื้นที่ 15 จังหวัดกำลังจะได้รับผลกระทบหนักอีกครั้งจากมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขที่จะแบนส่วนประกอบทั้งหมดในบุหรี่แบบที่ไม่มีใครในโลกทำกัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ชาวไร่ยาสูบได้รับผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีสรรพสามิตทำให้ถูกตัดโควตาและรายได้ลดลงกว่า 50% มา 4 ปีติดต่อกันแล้ว ซึ่งหากร่างกฎกระทรวงฯ นี้ออกมาเป็นกฎหมายจริง โควตารับซื้อใบยาจากการยาสูบแห่งประเทศไทยจะหายไปกว่า 92% จากที่เคยรับซื้ออยู่ปีละ 12.9 ล้านกิโลกรัม จะเหลือเพียง 1 ล้านกิโลกรัม
ชาวไร่ยาสูบต้องสูญเสียอาชีพและรายได้ไปเกือบทั้งหมดในทันที เงิน 1,200 ล้านบาทที่เป็นเงินหมุนเวียนในท้องถิ่นจะสูญหายไปจากเศรษฐกิจชุมชน และรายได้รัฐจากการจัดเก็บภาษีและกองทุนต่างๆ ก็จะหายไปประมาณ 74,700 ล้านบาท
เมื่อครั้งที่กรมควบคุมโรคจัดทำร่างกฎกระทรวงฯ ชาวไร่ยาสูบก็ไม่มีโอกาสเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นทั้งที่เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีการประเมินผลกระทบต่อชาวไร่อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อได้เห็นว่าร่างกฎกระทรวงฯ นี้จะทำให้พวกเราเสียอาชีพ เสียรายได้อย่างมากมาย จึงทำหนังสือมายังคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร้องเรียนถึงผลกระทบต่อชาวไร่
ซึ่งขณะนี้ร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวถูกเห็นชอบโดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว
นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่เบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ขอให้มีการพิจารณาแก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ นี้ หรือยกเลิกไปเลย ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ที่เพิ่งเสนอนุมัติเงินเยียวยาช่วยเหลือชาวไร่ 159 ล้านบาท อย่าได้ออกมาตรการมาซ้ำเติมชาวไร่ยาสูบให้แย่ไปกว่านี้
เพราะก่อนหน้านี้มีชาวไร่ยาสูบในจังหวัดสุโขทัยต้องฆ่าตัวตายจากปัญหาหนี้สินรุมเร้ามาแล้ว แลไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก จากนี้ไปจะเดินหน้าคัดค้านร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวจนกว่าจะถึงที่สุดเพื่อปกป้องอาชีพ
นางสุนิสา แก้วสุข ตัวแทนสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า ถ้าร่างกฎกระทรวงฯ นี้ผ่านออกมา ชาวไร่ยาสูบต้องกุมขมับแน่นอน มองไม่เห็นอนาคตเลย เห็นแต่ความมืดมน กรมควบคุมโรคตั้งใจทำลายอาชีพยาสูบให้หายไปจากประเทศไทย และพยายามยัดเยียดให้ปลูกพืชทดแทน ทั้งๆ ที่ยาสูบเป็นอาชีพสุจริต มาตรการนี้จะทำให้บุหรี่ถูกกฎหมายหายไป มีแต่บุหรี่เถื่อนทั้งตลาด
และยังปัดความรับผิดชอบให้หน่วยงานอื่นๆ มาดูแลชาวไร่แทนหากชาวไร่ต้องเลิกทำยาสูบ เราแค่อยากมีอาชีพ มีรายได้ และยาสูบเป็นพืชชนิดเดียวที่ทำให้เราลืมตาอ้าปากได้ในเวลานี้ พืชทดแทนอื่นก็ยังหาไม่ได้ ค่าครองชีพ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช หมู ไก่ และต้นทุนการเกษตร เช่น ปุ๋ย น้ำมัน ก็แพงขึ้น ในเวลาอย่างนี้ ไม่อยากให้รัฐบาลซ้ำเติมปัญหาปากท้องของชาวไร่อีก
“ต้องการให้มีการแก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ นี้ หรือไม่ก็ให้ยกเลิกไป”