เตือน! ติดโควิด19 เสี่ยงเป็นเบาหวานมากกว่า 58% แนะฉีดวัคซีนป้องกัน

04 มิ.ย. 2565 | 22:11 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2565 | 23:22 น.

เตือน! ติดโควิด19 เสี่ยงเป็นเบาหวานมากกว่า 58% แนะฉีดวัคซีนป้องกัน หมอเฉลิมชัยเผยข้อมูลการศึกษา วิเคราะห์หลายรายงาน

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ผู้ติดโควิด-19 (Covid-19) ที่หายดีแล้ว พบว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน (Diabetes) เพิ่มขึ้น 59%

 

หลังจากที่มีข้อมูลออกมาเป็นระยะจากการศึกษา การรวบรวม และการวิเคราะห์หลายรายงานด้วยกัน

 

พบมีแนวโน้มที่ชัดเจนว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด เมื่อหายดีแล้ว จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

ขณะนี้มีการรวบรวมและวิเคราะห์รายงานการศึกษาขนาดใหญ่ (Meta-Analysis) โดยเป็นการนำข้อมูลจากการศึกษาหลายอันที่อยู่ในลักษณะเดียวกัน มาวิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อให้ได้ขนาดตัวอย่างที่ใหญ่มากขึ้น

 

และพบว่าเมื่อศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่เป็นโควิดออกจากโรงพยาบาลแล้ว หรือหลังจากวินิจฉัยได้ 28 วันเป็นต้นไป

นำไปเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (Control) ซึ่งเป็นคนที่ไม่ได้เป็นโควิด หรือคนที่ติดเชื้อทางเดินหายใจปกติ

 

โดยวิเคราะห์ 4 รายงานขนาดใหญ่รวมผู้เกี่ยวข้องมากถึง 5,787,027 ราย
พบว่ากลุ่มที่ติดโควิดหายดีแล้ว มีอุบัติการณ์เป็นเบาหวาน  มากกว่ากลุ่มปกติถึง 59% หลังจากติดตามไปนาน 4 เดือน

 

ในขณะเดียวกันก็มีรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Lancet เปรียบเทียบกลุ่มที่ติดโควิด 181,280 ราย กับกลุ่มควบคุม 4,118,441 ราย พบว่ากลุ่มที่หายจากโควิดแล้ว มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานมากกว่ากลุ่มปกติถึง 40% หลังจากติดตามไปหนึ่งปี (352 วัน)

 

เตือน! ติดโควิด19 เสี่ยงเป็นเบาหวานมากกว่า 58%

 

โดยที่การศึกษาชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพศชายหรือหญิง เชื้อชาติอะไรก็ตาม รวมทั้งความรุนแรงของโรคจะมากหรือน้อย

 

ล้วนแต่มีความเสี่ยงที่จะเป็น "เบาหวาน" หลังจากหายดีแล้วเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น

จึงมีคำแนะนำจากรายงานการศึกษาว่า ควรฉีดวัคซีนโควิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อตามธรรมชาติจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

 

เบาหวานเป็นโรคที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะเป็นไปตลอดชีวิต ไม่มีทางรักษาให้หายขาด จะต้องใช้ยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อาจจะเป็นวิธีรับประทานหรือฉีด

 

ซึ่งจะเป็นภาระต่อสุขภาพและการเงินของผู้ป่วยเอง และเป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขเป็นอย่างมาก

 

การเข้าใจในข้อมูลเรื่องเบาหวานกับการเป็นโควิด-19 ดังกล่าว จึงมีประโยชน์อย่างชัดเจน สำหรับการแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่อไป