"หมอยง" เตือนไทยเสี่ยงทำผิดกฎหมายการเข้าสู่โรคประจำถิ่น เพราะอะไร อ่านเลย

12 มิ.ย. 2565 | 00:34 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มิ.ย. 2565 | 07:34 น.

"หมอยง" เตือนไทยเสี่ยงทำผิดกฎหมายการเข้าสู่โรคประจำถิ่น เพราะอะไร อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หลังการายงานผู้ป่วยต่ำกว่าความเป็นจริง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย โพสต์ข้อความว่า

 

โควิด-19  การเข้าสู่โรคประจำถิ่น หรือประจำฤดูกาล กับ พรบ โรคติดต่ออันตราย 

 

ขณะนี้การรายงานยอดผู้ป่วย ต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะมีจำนวนมาก ที่มีการติดเชื้อด้วยการตรวจเอง 

 

ไม่รุนแรง ไม่ได้ลงทะเบียน ไม่ทราบว่าจะมียอดจำนวนเท่าไหร่ และไม่ได้แจ้ง 

 

การเข้าสู่โรคประจำถิ่น สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือจะต้องเอารายชื่อโรคโควิด 19  ออกจากบัญชีโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 
 

โควิด 19  เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14  ในพระราชบัญญัติ ขณะนี้เราทำผิดกฎหมายกันมาก 

 

ตามกฎหมายฉบับนี้ โรคติดต่ออันตราย จะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่ควบคุมดูแล ทราบอย่างรวดเร็ว 

 

ผมเข้าใจว่าภายในเป็นชั่วโมง หรืออย่างช้าไม่ควรเกิน 24 ชั่วโมง 
ในความเป็นจริงขณะนี้ ผู้ที่ติดเชื้อจำนวนมาก หรือมีอาการน้อย ไม่ได้แจ้งหรือลงทะเบียน ก็จะเป็นการทำการผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว

 

"หมอยง" เตือนไทยเสี่ยงทำผิดกฎหมายการเข้าสู่โรคประจำถิ่น

 

โรคโควิด 19  จะต้องเปลี่ยนจากโรคติดต่ออันตราย มาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง 

 

และมีแนวทางการปฏิบัติเช่นเดียวกับโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง 55 โรค
ในช่วง ที่โรคโควิด 19  อยู่ในมาตรการที่เข้มข้น ตามกฎหมายของพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ยังไม่เพียงพอที่จะควบคุม เราจึงจำเป็นต้องใช้ พรก ฉุกเฉินเข้ามาช่วย

เราต่อสู้มานานถึง 2 ปีกว่า และขณะนี้ทุกคนมีภูมิต้านทานอยู่ในระดับหนึ่ง และเคยติดเชื้อไปแล้วจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอสมควร 

 

ในการที่จะให้โรคโควิด 19  เป็นโรคประจำถิ่นหรือประจำฤดูกาลเหมือนโรคทางเดินหายใจอื่นๆ กฎเกณฑ์ต่างๆก็คงจะต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เหมาะสม 

 

และความยอมรับของประชาชนทั่วไป รวมทั้งความเป็นอยู่ การเรียนการสอนของนักเรียน และจะได้ไม่ทำผิดกฎหมาย 

 

การเปิดเรียนของนักเรียนก็เช่นเดียวกัน ในอนาคตอันใกล้นี้แนวทางการปฏิบัติ 

 

ก็คงต้องคล้ายคลึงกับโรคทางเดินหายใจอื่น เช่นไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก ที่เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง