การนอนงีบ ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รู้ไหมว่า การใช้เวลา งีบหลับ แค่เพียง 10 นาที อาจช่วยให้ร่างกายตื่นตัว พร้อมที่จะทำงานต่อไปได้อีก 3 ชั่วโมง นักวิจัยยังพบว่า การงีบหลับในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น อาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการนอนหลับนาน 30 นาที – 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของร่างกายแต่ละคน ก็มีผลถึงความต้องการ การงีบระหว่างวัน ด้วย บางคนไม่จำเป็นเลย บางคนก็ต้องการเพียงเล็กน้อย หรือบางคนอาจต้องการหลับไปนานๆ เลยก็มีเช่นกัน
ประโยชน์ของการงีบระหว่างวัน
- ทำให้เกิดการตื่นตัวในการทำงานทั้งทางสมองและร่างกาย เกิดความกระตือรือร้น อาการร่วงโรยเหี่ยวเฉาจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ช่วยลดความเครียด-ความหงุดหงิด เป็นการผ่อนคลายสมอง เพราะการหลับจะช่วยลดฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดได้
- ทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการจดจำได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น
- การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า 40% การทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์จะทำได้ดีและมีความพร้อมมากขึ้น
- สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากการงีบระหว่างวันจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น
เคล็ดไม่ลับ ระยะเวลาที่ควรงีบระหว่างวัน
- นอนหลับ 10 – 20 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงานและคืนความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองโปร่ง เพราะอยู่ในช่วง non – rapid eye movement (NREM)
- นอนหลับ 30 นาที เป็นเวลานอนที่ไม่เป็นผลดีกับร่างกาย เพราะจะยังคงรู้สึกง่วง มึนงง เหมือนกับนอนไม่พอ และยังคงไม่พร้อมที่จะทำงาน ซึ่งกว่าอาการนี้จะหายไปก็ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีต่อมา
- นอนหลับ 60 นาที เป็นช่วงที่ดีต่อความจำ ซึ่งเรียกว่าอยู่ในช่วง Slow – wave sleep เป็นการหลับลึกที่ยังคงความง่วง แต่สมองสามารถเสริมความจำดีไว้ได้
- นอนหลับ 90 นาที เป็นการนอนที่ครบรอบ กล่าวคือ มีหลับลึกและไม่ลึกมากนัก อาจมีการฝันบ้าง ช่วยให้อารมณ์ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และไม่งัวเงียเหมือนช่วง 30 – 60 นาที
งานวิจัยยังพบว่า การใช้เวลางีบระหว่างวันเกินกว่า 30 – 45 นาที หรือการงีบช่วง 11.00 น. นอกจากจะไม่ส่งผลดีกับร่างกายแล้ว ยังก่อให้เกิดผลเสียตามมา เช่นทำให้ช่วงกลางคืนนอนไม่หลับ และอาจมีปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย”
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)