MASTER เปิดแผนงานรับไฮซีซั่น เตรียมเข้า SET ขยายตลาดศัลยกรรมปี 2567

24 ก.ค. 2567 | 10:19 น.
อัพเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2567 | 11:36 น.

MASTER เปิดแผนงานครึ่งหลังปี 2567 รับไฮซีซั่น ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% พร้อมเดินหน้าย้ายเข้า SET รับเทรนด์อุตสาหกรรมความงามมาแรง โดยวาง 4 Base Camp Mission to Everest ภายใน 3 ปี ก้าวสู่ผู้นำ Specialty Hospital

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทมาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของ MASTER ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่เอาไว้ได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ สอดรับกับนโยบายของภาครัฐ รองรับตลาด Medical Tourism ที่กำลังเป็นกระแสนิยมทั่วโลก ซึ่งภาพรวมของ MASTER ยังคงเน้นการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic มองการเติบโตแบบ Merger and Partnership (M&P) ภายใต้กลยุทธ์ Cross Border - Cross Selling และ Cross Synergy สนับสนุนการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน

โดยภาพรวมธุรกิจครึ่งแรกของปี 2567 ในไตรมาส 1-2 ที่เป็นช่วงโลซีซั่นยังเติบโตได้ดี และครึ่งหลังของปีในไตรมาส 3-4 ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก ลูกค้าแต่ละคนยังมีกำลังซื้อและใช้จ่ายเงินสดมากถึง 85% ส่งผลให้ตลอดปีบริษัทคาดการณ์รายได้เติบโตขึ้น 20% จากปี 2566 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการศึกษาและพิจารณาเข้าร่วมลงทุน (M&P) ในธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีก 2-3 ดีล อีกทั้งอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการด้านเอกสารเพื่อเตรียมย้ายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ภายในปี 2567 นี้ตามแผน และการย้ายเข้า SET จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น

MASTER เปิดแผนงานรับไฮซีซั่น เตรียมเข้า SET ขยายตลาดศัลยกรรมปี 2567

ส่วนกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสาร จะเน้นการเข้าถึงของลูกค้าเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ เน้นพัฒนาด้านบริการ Personalized ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ควบคู่กับการพัฒนาทักษะความสามารถของบุคลากร ทั้งคณะผู้บริหาร ทีมแพทย์ พนักงาน ในเรื่อง Hard Skills และ Soft Skills ที่ช่วยให้บุคลากรมีเครื่องมือในการดึงศักยภาพตัวเองออกมาเพื่อสร้างผลงาน พร้อมที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ แต่ละบริษัทของพาร์ตเนอร์ก็มีความชำนาญการเฉพาะ มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน และสิ่งที่เหมือนกันคือความต้องการที่จะเติบโต

ฉะนั้นหน้าที่ของ MASTER ในตอนนี้คือการวางกลยุทธ์ ปรับปรุงระบบ และร่วมพัฒนาไปพร้อมกัน เพื่อช่วยขับเคลื่อนการทำงานของบริษัทในเครือ สามารถพัฒนาไปสู่ความมั่นคงในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ

ในอีก 3 ปีข้างหน้า(ปี 2568-2570) บริษัทได้กำหนดยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำตลาดสู่การก้าวเป็นผู้นำ Specialty Hospital กลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทาง สนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางของศัลยกรรมความงาม ซึ่งปัจจุบันกำหนดภาพนิยามเป้าหมาย Mission to Everest ของ MASTER อยู่ที่ Base Camp ที่ 2 จาก 4  Base Camp ขณะที่ตลาดศัลยกรรมเติบโตตามเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่พร้อมเปิดกว้างการทำศัลยกรรมมากขึ้น ควบคู่ไปกับมาตรฐานความปลอดภัย ปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลดีต่อธุรกิจศัลยกรรมความงามในปัจจุบัน

MASTER เปิดแผนงานรับไฮซีซั่น เตรียมเข้า SET ขยายตลาดศัลยกรรมปี 2567

นางสาวลภัสรดา กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่ม MASTER มีจำนวนแพทย์ให้บริการ 47 คน หากรวมกับพาร์ตเนอร์ที่ร่วมลงทุน 15 บริษัท รวมกว่า 95 สาขา จะมีแพทย์ทั้งหมด 142 คน ให้บริการครอบคุมพื้นที่ทั่วประเทศกว่า 65% ซึ่งถือเป็นจุดเด่นและสนับสนุนต่อศักยภาพการขยายตัวของธุรกิจ มีสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็นคนไทย 75% และต่างชาติ 25% โดยจะขยายสัดส่วนต่างชาติเป็น 30% ในปีนี้ ทั้งจากอินโดนีเซีย พม่า และลาว เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ มีค่าใช้จ่ายต่อบิลสูงกว่าลูกค้าคนไทยราว 20-30% เพราะลูกค้าต่างชาตินิยมทำ 2 หัตถการขึ้นไปในแต่ละครั้งที่เดินทางมาใช้บริการ

"เราครอบคุลมลูกค้าทุกระดับ ลูกค้าคนไทยยังคงนิยมทำหัตถการใน 5 อันดับ ดังนี้ 1.จมูก มีสัดส่วนมากถึง 40-45% 2.ยกคิ้ว 3.ดึงหน้า 4.ดึงตา และ 5.ยุบโหนก ตัดกราม ส่วนลูกค้าจากต่างประเทศอันดับ 1 กว่า 40% มาจากอินโดนีเซีย นิยมทำจมูก ผิว ปลูกผม และเสริมหน้าอก ซึ่ง MASTER ในฐานะผู้นำอันดับต้นของอุตสาหกรรมความงามของไทยและเอเชีย มองตัวเองเสมือนเป็นปัจจัยที่ 5 มีลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ (Recurring Income) ในหัตถการใหม่เพิ่มขึ้น 15% และอีก 24% เป็นกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยที่ยังไม่เคยทำความงามเลย ยังไม่รวมถึงลูกค้าต่างชาติด้วย"

ทั้งนี้ ธุรกิจศัลยกรรมจากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยปี 2567 น่าจะมีมูลค่าตลาดประมาณ 75,000 ล้านบาท ขยายตัวราว 5-7% โดยตัวเลขการเติบโตอาจไม่ได้สะท้อนผลประกอบการที่ดีขึ้นของผู้ประกอบการทุกราย ขึ้นอยู่กับการตอบโจทย์ลูกค้า ทั้งค่าบริการ รสนิยม คุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ รวมถึงผลลัพธ์หรือความพึงพอใจในผลงานของแพทย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ผู้บริโภคมีต่อการเลือกใช้บริการธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามที่แตกต่างกันออกไป