ทุนญี่ปุ่นรุกตลาด “พลาสเตอร์แก้ปวด” ร้านยาไทย เผยคนป่วยออฟฟิซซินโดรมพุ่ง

28 ก.ย. 2567 | 22:05 น.

“ฮิซามิทสึ ฟาร์มาซูติคอล” จากญี่ปุ่น รุกร้านยา 1.3 หมื่นแห่งทั่วไทย ชิงตลาดพลาสเตอร์บรรเทาปวด 2,000 ล้าน เผยคนไทยป่วยออฟฟิซซินโดรมกว่า 70% โดยเฉพาะกลุ่มสูงวัย 60 ปีขึ้นไปปวดหลังและไหล่เรื้องรัง

มร. ทาโร่ ฮิรามัตสึ เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส หัวหน้าฝ่ายระหว่างประเทศ บริษัท ฮิซามิทสึ ฟาร์มาซูติคอล คัมปะนี อิงค์ จำกัด กล่าวว่า ในประเทศญี่ปุ่น ตลาดยาแก้ปวดหมวดหมู่ OTC (ยาที่ไม่เป็นอันตรายหรือควบคุมพิเศษ) มักจะถูกใช้ในผลิตภัณฑ์กลุ่มพลาสเตอร์เป็นหลัก และเชื่อว่าเทรนด์นี้กำลังขยายตัวไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์และไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน เพราะสามารถเลือกใช้บรรเทาอาการปวดได้ตรงจุด ใช้ง่าย สะดวกในการพกพา และเกิดผลข้างเคียงน้อย ต่างกับยาแก้ปวดชนิดรับประทานที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร หรือส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายที่ไม่เกี่ยวข้องได้ 

ทุนญี่ปุ่นรุกตลาด “พลาสเตอร์แก้ปวด” ร้านยาไทย เผยคนป่วยออฟฟิซซินโดรมพุ่ง

โดยประเทศไทยมีรายงานระบุว่า พนักงานออฟฟิศวัย 30 – 40 ปี ร้อยละ 70 มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการปวดหลังจากโรคออฟฟิศซินโดรม และคนในวัย 50 – 60 ปีขึ้นไปต้องทนทุกข์จากอาการปวดหลังเรื้อรังและไหล่แข็ง ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดของไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทางเลือกที่หลากหลาย และคาดว่าจะยังคงขยายตัวต่อไปในอนาคตเมื่อประชากรมีอายุมากขึ้น 

ดังนั้น ฮิซามิทสึ ฟาร์มาซูติคอล จึงได้ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ “เฟตัส ไดโคลฟีแนค” แผ่นแปะที่มีส่วนผสมของไดโคลฟีแนค (กลุ่มยาต้านการอักเสบ) ในรูปแบบพลาสเตอร์ เข้าสู่ตลาดให้เป็นทางเลือกกับผู้ที่ปัญหาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังชนิดรุนแรง โดยเชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันยอดขายในประเทศไทยให้เติบโตมากกว่าเดิมอย่างน้อย 2 เท่า และจากข้อมูลการตลาดล่าสุดของ Nielsen พบว่าฮิซามิทสึมีส่วนแบ่งการตลาดแผ่นแปะบรรเทาปวดในประเทศไทยเป็นอันดับ 2 มีมูลค่ายอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 142% เมื่อเทียบกับปี 2566 และเติบโต 328% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น และเมื่อรวมยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยข่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2567 (Fiscal Year) พบว่ามีอัตราเติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566

ทุนญี่ปุ่นรุกตลาด “พลาสเตอร์แก้ปวด” ร้านยาไทย เผยคนป่วยออฟฟิซซินโดรมพุ่ง

ด้าน มร. คัตสึฮิโระ ซาโตะ เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ผู้จัดการทั่วไป สำนักงานขาย APEA ฝ่ายระหว่างประเทศ กล่าวว่า พลาสเตอร์บรรเทาปวด “เฟตัส ไดโคลฟีแนค” เป็นแผ่นแปะที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น และได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น มียอดขายสูงสุดในหมวดของพลาสเตอร์บรรเทาปวดที่ผู้ใช้จะต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยเริ่มวางจำหน่ายที่ร้านขายยาระบบเครือข่าย (Key Chain Pharmacies) และร้านขายยาทั่วไป ขณะที่ผลิตภัณฑ์ “ซาลอนพาส” กลุ่มเดียวกันของบริษัทฯ ก็ยังอยู่ในตลาด

“ไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่เปิดตัวพลาสเตอร์บรรเทาปวด “เฟตัส ไดโคลฟีแนค” นอกประเทศญี่ปุ่นถัดจากสิงคโปร์ และฮิซามิทสึได้ให้ความสำคัญในการจัดเตรียมแผนกลยุทธ์การตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในส่วนของการกระจายสินค้าสู่ร้านขายยาทั่วประเทศตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงสินค้าได้ง่าย ผ่านร้านขายยาใกล้บ้าน โดยตั้งเป้าขยายการจำหน่ายไปสู่ร้านขายยากว่า 1.3 หมื่นแห่งในประเทศไทย ทั้งการจัดทำโฆษณาผ่านสื่อทีวีและออนไลน์ ควบคู่กับการออกโรดโชว์จัดแสดงสินค้าตามแหล่งชุมชน รวมถึงการส่งเสริมการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าผ่านความร่วมมือกับเภสัชกรอีกด้วย

ทั้งนี้ ฮิซามิทสึ ฟาร์มาซูติคอล มีแผนส่ง “เฟตัส ไดโคลฟีแนค” ไปจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้นถัดจากประเทศไทว ได้แก่ เวียดนาม ภายในปี 2024 ฟิลิปปินส์และฮ่องกงในปี 2025

อย่างไรก็ตาม นายวรวิทย์ ตู้สกุล
ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด
บริษัท ฮิซามิทสึ ฟาร์มาซูติคอล คัมปะนี อิงค์ จำกัด กล่าว่า ตลาดพลาสเตอร์บรรเทาปวดในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ฮิซามิทสึ ฟาร์มาซูติคอลมีสัดส่วนเป็นอันดับ 2 อยู่ราว 11% ห่างจากอันดับ 1 ที่มีสัดส่วนอยู่ 79% โดยภาพรวมถือว่าตลาดในประเทศไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่องทุกปี เพราะคนไทยมักมีอาการปวดหลังปวดไหล่เรื้อรัง สถานการณ์ทั่วไปไม่ต่างจากประเทศอื่นในเอเชียมากนัก และส่วนมากมักจะใช้พลาสเตอร์บรรเทาปวดเฉลี่ย 1 คน/2แผ่น/วัน ซึ่งในอนาคตทางบริษัทก็คาดหวังให้ตลาดในไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น จากยอดขายในอันดับ 6 ของเอเชีย ขยับขึ้นไปเป็นอันดับ 3 ภายใน 3 ปีนับจากนี้